นายสมพงษ์ กิติเรียงลาภ ประธานกรรมการบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เมื่อเร็วๆ ประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ได้เปิดประมูลซื้อข้าวเป็นการทั่วไป โดยอินโดนีเซียเปิดประมูลซื้อจำนวน 50,000 ตัน ฟิลิปปินส์เปิดประมูลซื้อ จำนวน 240,000 ตัน ผลประมูลปรากฏว่าในส่วนของอินโดนีเซียบริษัท พงษ์ลาภ ชนะประมูล 30,000 ตัน เป็นข้าวขาว 5% จำนวน 20,000 ตัน ข้าวขาว 10% จำนวน 10,000 ตันราคาซีไอเอฟ ( รวมค่าขนส่ง)เฉลี่ยตันละ 354 ดอลลาร์สหรัฐ และบริษัทูเปอร์ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ค้าข้าวชนะประมูล 20,000 ตัน แยกเป็นข้าวขาว5% จำนวน 10,000 ตัน ข้าวขาว 15% จำนวน 10,000 ตัน โดยข้าวจำนวนนี้ทูเปอร์ได้นำมาขายต่อให้กับบริษัท นครหลวงค้าข้าว

     ส่วนการประมูลซื้อข้าวของฟิลิปปินส์จำนวน 240,000 ตัน ซึ่งเป็นข้าวขาว 25% ทั้งหมด มีบริษัทส่งออกข้าวของไทย 3 รายชนะประมูลได้แก่บริษัท ไทยฟ้า (2511) จำกัด บริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด บริษัท ข้าวไชยพร จำกัด และโบรกเกอร์ข้าวอีก 1 ราย ราคาเอฟโอบี (ไม่รวมค่าขนส่ง) เฉลี่ยตันละ 307 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ข้าวที่ชนะประมูลทั้งของอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ จะต้องดำเนินการส่งมอบให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน และเป็นข้าวใหม่

     "เหตุที่ไทยชนะประมูลเพราะเวลานี้เวียดนามไม่มีข้าวส่งออกแล้ว จึงเป็นโอกาสของไทย"นายสมพงษ์ กล่าว

     ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเหตุที่เวียดนามสูญเสียตลาดข้าวให้กับไทย เพราะเวลานี้ข้าวเวียดนามแพง คือข้าว 5% เสนอขายที่ราคาเอฟโอบีตันละ 317-320 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อรวมค่าขนส่งจะตกตันละ 360 ดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับรัฐบาลเวียดนามประกาศห้ามส่งออกข้าว หากผู้ส่งออกจะร่วมประมูลขายข้าวต่างประเทศต้องได้รับการอนุญาตเป็นพิเศษเท่านั้น

     ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าขณะนี้ได้มีผู้ซื้อข้าวจากต่างประเทศ 3 ราย สนใจซื้อข้าวในสต๊อกของรัฐบาลรวมกันประมาณ 2.3 ล้านตัน โดยประเทศแอฟริกาใต้สนใจซื้อข้าว 25% ปริมาณ 300,000 ตัน ผู้นำเข้าจากยุโรป 2 รายสนใจซื้อรายละ 1 ล้านตัน ทั้งสองประเทศต้องการซื้อข้าวเพื่อตุนไว้ในสต๊อกเนื่องจากปีนี้สต๊อกข้าวลดจึงหวั่นว่าจะขาดแคลน

     นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าวันที่ 2 ตุลาคม ศกนี้ กรมการค้าต่างประเทศ จะเปิดประมูลขายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเพื่อจำหน่ายต่างประเทศและในประเทศจำนวน 821,394 ตัน แยกเป็นข้าวขาว 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2547/48 จำนวน 245,061 ตัน ขายในประเทศ 33,686 ตัน ส่งออก 211,375 ตัน ปี 2548/49 จำนวน 200,000 ตัน ให้ส่งออกไปต่างประเทศ ข้าวหอมมะลิตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 และปี 2548/49 จำนวน 376,333 ตัน จำหน่ายได้ทั้งในประเทศและส่งออก ข้าวที่นำมาเปิดประมูลจะมีทั้งข้าวที่บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัดประมูลได้และข้าวสต๊อกของรัฐบาล ทั้งนี้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลสามารถขอสิทธิ์ตรวตสอบคุณภาพข้าวในแต่ละคลังสินค้าก่อนถึงวันประมูล หากไม่มีการตรวจสอบจะถือว่ายอมรับสภาพข้าวที่ประมูลได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง

     นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่าถึงสิ้นปีนี้คาดกว่าประเทศไทยจะส่งออกข้าวได้ปริมาณ 8-8.2 ล้านตัน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8.5 ล้านตัน เนื่องจากผู้ส่งออกประสบปัญหาค่าระวางเรือขนส่งสินค้าที่ไม่เพียงพอ แม้ว่าช่วงนี้จะมีออเดอร์เข้ามามากก็ตาม ดังนั้นคิดว่าออเดอร์ส่วนหนึ่งอาจต้องส่งมอบยาวไปถึงปีหน้า

     อนึ่ง ก่อนหน้านี้กรมการค้าต่างประเทศ ได้นำข้าวที่บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ประมูลได้แต่ไม่รับมอบมาเปิดประมูลและขายออกไปแล้วจำนวน 300,000 ตัน จากจำนวนข้าวทั้งหมดที่บริษัท เพรซิเดนท์ฯไม่รับมอบกว่า 1 ล้านตัน

ิ์ที่มา ฐานเศรษฐกิจ