นางอรนุช โอสถานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปริมาณข้าวของรัฐที่ถูกขโมยและสูญหายไปขณะนี้มีจำนวนกว่า 20,000 ตัน โดยทาง อคส.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโรงสีไม่ว่าจะเป็นจังหวัดนนทบุรี พิจิตร และเชียงราย ขณะที่ปริมาณข้าวที่หายไป ขณะนี้ทาง อคส. เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ว่าราชการจังหวัด กำลังเร่งติดตาม คาดว่าจะนำข้าวบางส่วนกลับคืนมาได้
อย่างไรก็ตาม ข้าวในสตอกของรัฐที่มีปริมาณสูงถึง 4 ล้านตัน ซึ่งเป็นข้าวจากรัฐบาลชุดก่อน ๆ ได้สั่งการให้ อคส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเอกซเรย์แบบปูพรม เพื่อตรวจเช็กปริมาณข้าวของรัฐว่ามีข้าวที่สูญหายอีกหรือไม่ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งระบายสตอกข้าวของรัฐ เพื่อให้ปริมาณลดลง แต่จะไม่ทำให้ราคาข้าวในประเทศปั่นป่วน
ขณะเดียวกัน จะดำเนินการหมุนเวียนหัวหน้าคลังสินค้าจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือร่วมขบวนกับการเวียนเทียนข้าวได้อีก นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด ยินดีที่จะร่วมถือกุญแจในคลังสินค้าจังหวัดนั้น ๆ ด้วย รวมทั้งขอเตือนผู้ที่ประกอบธุรกิจค้าข้าว หากดำเนินการซื้อข้าวจากที่ขโมยมา ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ถือว่ามีความผิดในการรับซื้อของโจรได้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะเข้มงวดและวางมาตรการต่าง ๆ ให้เข้มข้นขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาการเวียนเทียนข้าว
นางอรนุช ยืนยันว่า แม้รัฐบาลจะมีแนวทางในการลดปริมาณการรับจำนำหรือยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวในอนาคต แต่โครงการรับจำนำข้าวนาปีในฤดูกาลผลิต 2550/51 ที่จะเริ่มเปิดรับจำนำวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้จะดำเนินการต่อไป เพื่อไม่ให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนและเป็นทางเลือกให้เกษตรกร เพราะโครงการรับจำนำข้าว ยังถือว่า จำเป็นที่จะใช้ชี้นำราคาตลาด สำหรับการส่งออกข้าว ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ไทยส่งออกข้าวแล้วทั้งสิ้น 5.2 ล้านตัน หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น จึงยังมั่นใจความต้องการข้าวไทยในตลาดโลกยังมีสูงและน่าจะสามารถส่งออกข้าวได้ตามเป้าหมายกว่า 8 ล้านตันในปีนี้
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|