www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ข้าวขาดราคาตลาดโลกพุ่ง ผู้ส่งออกแย่งประมูล 9 แสนตัน


    ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมสรุปผลการเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 913,346.71 ตัน เพื่อเสนอนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณา โดยเบื้องต้นผู้ส่งออกทุกรายให้ราคาข้าวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ในโครงการรับจำนำปี 2548/49 ปริมาณ 200,880.43 ตัน ซึ่งบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้เสนอซื้อปริมาณสูงสุดยกลอตให้ราคาบางโกดังเพิ่มขึ้นถึง 600 บาทต่อตัน จาก 17,000 บาทต่อตันของราคาสูงสุดที่เสนอตอนแรก ปรับเป็น 17,600 บาทต่อตัน แต่ราคาโดยเฉลี่ยระหว่าง 16,500-17,600 บาทต่อตันขึ้นไป ใกล้เคียงราคาตลาดที่อยู่ระดับ 17,000-18,000 บาทต่อตัน ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้กระจายให้กับผู้ส่งออกประมาณ 10 ราย จากจำนวนทั้งหมด 36 ราย

     ส่วนข้าวขาว 5% ในโครงการนาปีปี 2547/48 นาปรังปี 2548 และปี 2548/49 ซึ่งมีปริมาณรวม 541,448.23 ตัน และข้าวขาว 25% เลิศ ในโครงการปี 2547/48 และปี 2548/49 จำนวน 100,918.13 ตันนั้น กรมการค้าต่างประเทศเสนอให้มีผู้ชนะการประมูล 10 กว่าราย เช่นเดียวกับข้าวหอมมะลิ โดยราคาต่อรองสูงสุดถึงกว่า 9,800-9,900 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาสูงสุดในวันเปิดซอง 9,720 บาท และถือว่าสูงกว่าราคาตลาดที่ 9,300 บาท เนื่องจากข้าวกลุ่มนี้มี 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการค้าข้าว คือบริษัท ไชยพรไรซ์แอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด บริษัท เอเซียโกลเด้นไรซ์ และบริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ จำกัด (หรือนครหลวงค้าข้าว) แย่งซื้อกันแบบยกลอต

     ด้านนายสุเมธ เหล่าโมฬาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตข้าวตราฉัตร กล่าวว่า ในการประมูลครั้งนี้บริษัทให้ราคาสูงถึง 16,000-17,000 บาทต่อตัน ในบางโกดังที่มีคุณภาพดีและไม่ต้องปรับปรุงมากนัก เพราะข้าวที่รัฐบาลเปิดประมูลครั้งนี้เป็นข้าวหอมมะลิเก่าซึ่งส่วนใหญ่จะใช้จำหน่ายในประเทศ ประกอบกับเป็นช่วงปลายฤดูกาลทำให้ไม่มีสินค้ารองรับตลาดในประเทศ และข้าวที่จะออกมาในฤดูใหม่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมจะเป็นข้าวที่เหมาะกับตลาดส่งออกมากกว่า

     ส่วนการเพิ่มราคาให้กับบางโกดังเพราะมีการแข่งขันสูง เราต้องการข้าว บางคลังมีคนเสนอราคาแข่งขัน 8-9 ราย ดังนั้นเราจึงต้องเพิ่มราคาสูงสุดสู้ เพราะรัฐบาลจะตัดสินใจว่าหากราคาสูงสุดยังไม่ถึงเกณฑ์ที่วางไว้ก็จะสงวนสิทธิ์ไม่ขาย อย่างไรก็ตาม หลักในการขึ้นราคาก็ต้องมองดูคุณภาพ การขนส่ง เพราะน้ำมันขึ้นราคา และในครั้งนี้รัฐบาลก็ไม่ได้ให้ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง ค่าลดหย่อนซึ่งเราต้องขนส่งมาปรับปรุงไกลถึง จ.พระนครศรีอยุธยา

     สถานการณ์ข้าวในปี 2550/51 ในตลาดต่างประเทศปีหน้าต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะข้าวขาว เนื่องจากอินเดีย ผู้ส่งออกข้าวขาว, ข้าวบาสมาติ และข้าวนึ่งไปยังตลาดโลกปีละ 3-4 ล้านตัน ประกาศหยุดการส่งออกภายหลังประสบปัญหาราคาข้าวในประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีกับการส่งออกข้าวนึ่ง ขณะเดียวกันเวียดนามซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวขาวปีละ 4.5-5 ล้านตัน ก็ประกาศระงับการส่งออกข้าวเช่นกัน เนื่องจากผลผลิตในประเทศไม่พอบริโภคภายในประเทศ หลังจากนี้จะต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือน ว่าจะผลิตข้าวได้เพิ่มหรือไม่

     "การที่ผู้ส่งออกข้าวสำคัญทั้งอินเดียและเวียดนามหยุดส่งออก ประกอบกับข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USFDA) ประเมินว่าปริมาณผลผลิตข้าวจะเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่าปริมาณความต้องการในการบริโภคข้าว ขณะที่ สต๊อกข้าวโลกก็จะปรับลดลง เนื่องจากผลผลิตเพิ่มน้อย ภัยธรรมชาติ จึงทำให้เกิดการดึงสต๊อกข้าวเก่ามาใช้จนเหลือน้อยลง ดังนั้นในด้านราคาปรับสูงขึ้นจากปีก่อนแน่นอน ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าปรับสูงขึ้นอีก นอกจากนี้ปัจจัยในเรื่องพลังงานทดแทนทำให้ราคาธัญพืชโลกปรับสูงขึ้นไปอีก ปัจจัยนี้เป็นเหตุผลสำคัญทำให้ผู้ส่งออกข้าวต้องการประมูลข้าวในลอตนี้เพื่อนำไปส่งออก" นายสุเมธกล่าว

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
The Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.