นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกลุ่มผู้บริหารเพรซิเดนท์ฯ เตรียมฟ้องกลับกรมการค้าต่างประเทศกรณีปัญหาซื้อขายข้าวของรัฐ ว่า ทางกรมฯ ไม่วิตกกังวล เพราะถือเป็นเรื่องทางคดี ทุกคนมีเหตุมีผลและวิธีการชี้แจง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของผู้เสียหายที่จะออกมาพูดอย่างไรก็ได้ และคิดว่าผู้ที่ถูกฟ้องจะออกมาพูดว่าตัวเองไม่ผิด ถือเป็นสงครามจิตวิทยา ซึ่งจะไม่ตอบโต้ แต่ให้ขึ้นอยู่กับกระบวนการพิจารณาของศาล แต่กรมการค้าต่างประเทศมีหลักฐานพร้อม
นายวิจักร กล่าวว่า ได้เชิญผู้ส่งออกข้าว ผู้ประกอบการค้าข้าวและผู้ขายข้าวรายใหม่ร่วมรับฟังการชี้แจงการจำหน่ายข้าวสารสตอกรัฐบาล โดยกรมฯ จะเปิดประมูลข้าวสารสตอกรัฐบาลจำนวน 558,598 ตัน ซึ่งเป็นข้าวฤดูการผลิตปี 2547/2548 เป็นข้าวขาว 5% โดยยื่นซองเวลา 10.00 น. และเปิดซองประมูลเวลา 14.00 น. วันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม ข้าวสารจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นข้าวสาร 5% เสื่อมคุณภาพเล็กน้อย 45,103 ตัน โดยข้าวดังกล่าวประมูลเพื่อจำหน่ายในประเทศ ส่วนที่เหลือ 513,495 ตัน ส่งออกต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ราคาเฉลี่ยข้าวในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะข้าวขาว 5% เฉลี่ยที่ 325-370 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และเชื่อว่าแม้สตอกข้าวรัฐปีนี้จะมีถึง 3-4 ล้านตัน แต่ไม่หนักใจ เพราะขณะนี้ความต้องการข้าวในต่างประเทศยังสูง จึงเป็นจังหวะของผู้ขาย และยังมั่นใจปีนี้การส่งออกข้าวจะเป็นไปตามเป้าหมายกว่า 8 ล้านตัน
รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวอีกว่า ทางกรมฯ กำหนดในรายละเอียดของหนังสือเชิญชวนผู้สนใจเสนอราคาซื้อข้าวสารเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก ซึ่งผู้ชนะประมูลข้าวจำนวนดังกล่าวในการส่งมอบและรับข้าวสาร หากปริมาณไม่เกิน 50,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบภายใน 45 วัน และส่งออกอีก 45 วัน รวม 90 วันนับตั้งแต่วันทำสัญญา หากเกิน 50,000 ตัน แต่ไม่เกิน 100,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 60 วัน และเพื่อส่งออกอีก 60 วัน รวม 120 วัน นับตั้งแต่วันทำสัญญา แต่หากเกิน 100,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบภายใน 75 วัน และเพื่อส่งออก และภายในประเทศอีก 75 วัน รวม 150 วันนับตั้งแต่วันทำสัญญา อย่างไรก็ตาม ภาครัฐคงไม่สามารถบอกปริมาณข้าวดังกล่าวว่าเป็นของบริษัท เพรซิเดนท์ฯ เท่าใด แต่จำนวนข้าวที่ภาครัฐนำมาประมูลครั้งนี้ถือเป็นสตอกรัฐทั้งสิ้น และขอให้มั่นใจสภาพข้าวในโกดังรัฐบาลยังอยู่ในสภาพดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นางอรนุช โอสถานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานประชุมร่วมกับ อคส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางออกตรวจเช็กสตอกข้าวรัฐบาลแบบปูพรม เพื่อรับทราบข้าวสตอกรัฐเสียหายหรือเสื่อมสภาพในโกดังต่าง ๆ มากน้อยแค่ไหน และจะได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อคส.ดูแลคลังสินค้าต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
ที่มา สำนักข่าวไทย
|