นายชาญพิทยา ฉิมพาลี ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการผลิตข้าว กรมการข้าว เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มอบหมายกรมการข้าวพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวนา ตามแผนยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ว่า กรมการข้าวมีจุดมุ่งหมายสร้างชาวนาให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ หรือที่เรียกว่า “Smart Farmer” โดยประสานการทำงานกับเครือข่ายศูนย์ข้าวชุมชนที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 7,000 แห่ง โดยขณะนี้มี Smart Farmer ที่ทำงานในโครงการประมาณ 300-400 คนแล้ว แต่ในปีงบประมาณ 2551 จะเพิ่มจำนวนเป็น 2,000-3,000 คน ซึ่งคนเหล่านี้จะทำงานร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิด โดยมีบทบาทหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และคอยบริการให้กับชาวนาทั่วไป การทำงานของ Smart Farmer จึงมีลักษณะการทำงานคล้ายกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เมื่อชาวนามีปัญหาในเรื่องต่าง ๆ เกิดขึ้น กลุ่ม Smart Farmer จะคอยช่วยเหลือในการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อให้เข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
       
     นอกจากนี้ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวนา ตามยุทธศาสตร์ชาวนาอยู่ดีมีสุข ยังได้ประสานความร่วมมือกับปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อจัดเป็นเวทีชุมชนในการถ่ายทอดความรู้หรือรับฟังปัญหาของชุมชน ทั้งในเรื่องของปัญหาทางด้านการตลาด ปัญหาด้านการผลิต โดยจะมุ่งเน้นพัฒนาความรู้ที่จะช่วยให้การทำนาได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอาทิ เรื่องความสำคัญของการใช้เมล็ดพันธุ์ดีเพื่อลดต้นทุนการผลิต การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าข้าว
       
     สำหรับงบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2551 อีกประมาณ 400 ล้านบาท จากเดิมได้รับการจัดสรรจำนวน 1,050 ล้านบาท กรมการข้าวจะนำงบประมาณมาสานต่อโครงการดังกล่าวเพื่อขยายการทำงานให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าชุมชนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะเพิ่มผลผลิตมากขึ้นกว่าเดิมประมาณร้อยละ 20 ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ แบ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปี 57.5 ล้านไร่ พื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรัง 9.0 ล้านไร่ และเพิ่มผลผลิตข้าวเปลือกรวมจาก 25.877 ล้านตัน ในปี 2545/2546 เป็น 33.075 ล้านตัน ในปี 2550/2551 ซึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 139,586 ล้านบาท ในปี 2546 เป็น 226,742 ล้านบาท ในปี 2551

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์