www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ข้าวจีทูจีไทย-อิเหนาได้ข้อยุติ เอกชนยอมจ่าย 7 ล้านบาท เตรียมรับออเดอร์ใหม่ 1.3 แสนตัน


     แหล่งข่าวในวงการค้าข้าว เปิดเผยกับว่า เมื่อเร็วๆ นี้ผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนบริษัทส่งออกข้าวที่ได้รับปรับปรุงคุณภาพข้าวเพื่อส่งมอบรัฐบาลอินโดนีเซีย ( องค์กรสำรองอาหารแห่งอินโดนีเซียหรือบูล็อก) ได้เดินทางไปเจรจากับบูล็อก กรณีที่บูล็อกไม่รับมอบข้าวจากรัฐบาลไทย ตามสัญญาขายข้าวรัฐบาลต่อรัฐบาลหรือจีทูจี จำนวน 200,000 ตัน ราคาเอฟโอบี (ไม่รวมค่าขนส่ง)ตันละ 309 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ทำสัญญาซื้อขายกันเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธุ์ 2550 กำหนดส่งมอบถึงเดือนพฤษภาคม ได้ส่งมอบไปแล้ว 160,000 ตัน ยังคงเหลือไม่รับมอบอีก 40,000 ตัน อ้างว่าข้าวที่ส่งไปไม่ได้มาตรฐานตามที่บูล็อกกำหนด

     ทั้งนี้ผลการเจรจาเบื้องต้นบูล็อกจะขอโอนสัญญาส่วนที่เหลือ 40,000 ตันให้กับเอกชนไทย แต่เอกชนของไทยไม่รับ เพราะเป็นสัญญาจีทูจี ทั้งสองฝ่ายจึงได้ยกเลิกสัญญาส่วนที่เหลือดังกล่าวและยอมจ่ายค่าปรับวงเงิน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7 ล้านบาท(คำนวณที่ 34 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยค่าปรับดังกล่าวผู้ส่งออกข้าวทั้ง 9 รายที่ได้รับเลือกให้ปรับปรุงคุณภาพข้าวเพื่อส่งมอบบูล็อกเป็นผู้ชำระทั้งหมด โดยจะเฉลี่ยกันไปตามมูลค่าสัดส่วนที่ได้รับจัดสรรให้ส่งมอบ

     "ข้าวที่ส่งมอบให้กับบูล็อกเป็นข้าวขาว 15% ซึ่งรัฐบาลได้นำข้าวตามโครงการรับจำนำ มาให้บริษัทที่ชนะประมูลปรับปรุง ซึ่งบูล็อกกำหนดต้องเป็นข้าวขาว 15% MIX คือข้าวขาวที่มีเมล็ดหักได้ไม่เกิน 15% หรือต่ำกว่า 15% ได้แต่มาตรฐานข้าวขาว 15% ของไทยนั้น มีข้าวขาวเมล็ดหักปนได้ 15-17% ซึ่งบริษัทปรับปรุงคุณภาพข้าวได้ปรับปรุงตามมาตรฐานไทย เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้กำชับให้ทำตามมาตรฐานอินโดนีเซีย เมื่อส่งไปถึงอินโดนีเซียจึงเกิดปัญหาและทางบูล็อกไม่รับมอบในส่วนที่เหลือและคิดค่าปรับในที่สุด" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

     อย่างไรก็ดีการที่บูล็อกยกเลิกรับมอบข้าวที่ได้ทำสัญญาซื้อขายกันครั้งนี้ คงไม่มีผลไปถึงการเจรจาซื้อขายกันในโอกาสต่อไป เพราะปกติอินโดนีเซียไม่นิยมซื้อข้าวเก่าอยู่แล้ว แต่จะซื้อข้าวฤดูใหม่ หากจะซื้อข้าวเก่าต้องมีการเจรจากันในเรื่องของราคาซึ่งอาจจะต้องขายราคาต่ำ หากเขามีความต้องการซื้อและตกลงราคากันได้คิดว่าคงยังซื้ออยู่

     แหล่งข่าว กล่าวว่า ขณะนี้อินโดนีเซียยังมีความต้องการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ เนื่องจากปริมาณที่มีอยู่ไม่เพียงพอ โดยเร็วๆ นี้จะเปิดประมูลซื้อเป็นการทั่วไปอีกประมาณ 130,000 ตัน คิดว่าประเทศไทยคงมีโอกาสชนะประมูลขายครั้งนี้ เพราะขณะนี้ประเทศที่ยังคงมีข้าวเหลืออยู่มีเพียงไทย อินเดีย ปากีสถาน ซึ่งทั้งสองประเทศคุณภาพสู้ข้าวไทยไม่ได้ ส่วนเวียดนามปริมาณข้าวเหลือน้อยมากคงจะไม่มาแข่งขัน

     "อินโดนีเซียเคยซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย แม้จะมีปัญหาเกิดขึ้นกรณีที่อินโดนีเซียอ้างว่าข้าวไทยที่ส่งมอบไปตามสัญญาจีทูจีไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน จนต้องยกเลิกสัญญาบางส่วน แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจากันแบบอลุ้มอล่วยที่สุดและสามารถทำความตกลงกันได้ โอกาสที่จะชนะประมูลขายครั้งนี้และอินโดนีเซียเลือกซื้อจากไทยยังมีสูงอยู่"

     แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าขณะนี้บริษัทส่งออกข้าวของไทยทั้ง 9 ราย ที่ได้รับชนะปรับปรุงข้าวรัฐบาลส่งมอบให้กับบูล็อก อยู่ระหว่างเจรจาต่อรองให้บูล็อกพิจารณาซื้อข้าวจากทั้ง 9 บริษัท ด้วยเหตุผลเคยปรับปรุงข้าวรัฐบาลไทยส่งมอบให้กับบูล็อก และปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไม่ได้ย้ำกันให้ชัดเจนในส่วนของคุณภาพมาตรฐานว่าจะต้องเป็นมาตรฐานตามที่บูล็อกกำหนด ประกอบกับทั้ง 9 บริษัทยินดีจ่ายค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นตามที่บูล็อกต้องการ ดังนั้นทั้ง 9 บริษัทจึงมีโอกาสได้ส่งออกข้าวไปอินโดนีเซียครั้งนี้มากกว่าผู้ส่งออกข้าวรายอื่นๆ

     สำหรับบริษัทที่ชนะปรับปรุงส่งมอบข้าวให้รัฐบาลอินโดนีเซีย 9 บริษัท ได้แก่บริษัท แคปปิตอลซีเรียลส์ บริษัท เบญพืช บริษัท โชคชัยนครหลวง บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง บริษัท นครสวรรค์ค้าข้าว บริษัท เอเชียโกลเดนท์ไรซ์ บริษัท ไชยพรอินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ไทยฮาและบริษัท พงษ์ลาภฯ ทั้งนี้ออเดอร์ใหม่ 1.3 แสนตัน หากอินโดนีเซียซื้อจากไทยบริษัท เพรซิเดนท์ฯ คงไม่ได้รับเพราะได้แจ้งหยุดกิจการไปแล้ว

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

 


©
The Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.