www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

จีทีซีเจรจาส.ผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ อิหร่านเดินสายซื้อข้าวไทย 400,000 ตัน


     ในสัปดาห์นี้ Government Trading Corporation หรือ GTC อิหร่านได้เดินทางมาไทยโดยมีกำหนดการเข้าพบนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เพื่อขอซื้อข้าวไทยเพิ่มเติมหลังจากที่ซื้อไปแล้วกว่า 700,000 ตัน ทั้งแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) และซื้อจากเอกชนโดยตรง

     ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า สมาคมมีกำหนดการจะหารือกับ GTC อิหร่านในวันที่ 11 กรกฎาคม นอกเหนือจากการขายข้าวให้อิหร่านแล้ว สมาคมจะเสนอให้มีการปรับมาตรฐานข้าวส่งออก เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การผลิต และเพื่อป้องกันไม่ให้นำมาเป็น "ข้ออ้าง" ในการกดราคาซื้อข้าวไทยเหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมา

     เนื่องจากปัจจุบันขนาดเมล็ดข้าวจะมีความยาวประมาณ 5.7 ม.ม. "ต่ำกว่า" มาตรฐานที่กำหนด 5.9 ม.ม. เพราะส่วนใหญ่จะเป็นข้าวนาปรังและมีการเพาะปลูกข้าวพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นทำให้ขนาดเมล็ดข้าวเปลี่ยนไป ดังนั้นข้อเสนอของสมาคมในการปรับมาตรฐานความยาวของเมล็ดข้าวจึงไม่ใช่เป็นการลดมาตรฐาน แต่ปรับเพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงและที่สำคัญคือขนาดดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคุณค่าทางโภชนาการ

     "ผมคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังไทยจะมีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นจากรัฐบาลอิหร่านอีกไม่ต่ำกว่า 400,000 ตัน หรือประมาณ 2 ลอต เนื่องจากตามปกติรัฐบาลอิหร่านจะนำเข้าข้าวขาว 100% ปีละ 1.2 ล้านตัน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ซื้อแบบ G to G จากรัฐบาลไทยไปแล้ว 400,000 ตัน (2 ลอต) และจากภาคเอกชนอีก 300,000 ตันเศษ รวมแล้วประมาณ 700,000 ตัน และที่เหลือก็คงต้องนำเข้าข้าวจากไทย เพราะเวียดนามไม่มีข้าวส่งออกแล้วจนกว่าจะถึงเดือนกันยายน ถึงมีก็ไม่เกิน 200,000 ตันเท่านั้น" นายชูเกียรติกล่าว

     ทั้งนี้นายชูเกียรติได้รับข้อมูลข้าวเวียดนามจากการประชุมความร่วมมือด้านข้าวครั้งที่ 3 ที่ประเทศเวียดนามในสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุเวียดนามได้ส่งออกข้าวไปแล้ว 4.3 ล้านตันจากเป้าหมายที่กำหนดไว้ 4.5 ล้านตัน ขณะนี้ถือว่าสิ้นสุดฤดูกาลส่งออกข้าวเวียดนามแล้ว หากเวียดนามยังมีผลผลิตข้าวหลงเหลืออยู่อีกก็คาดการณ์ได้ว่าจะส่งออกข้าวได้เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในเดือนกันยายน แต่รวมแล้วไม่เกิน 4.7 ล้านตันแน่นอน

     อย่างไรก็ตาม เวียดนามมีความจำเป็นจะต้องรักษาสต๊อกข้าวภายในประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับระดับเงินเฟ้อที่สูงถึง 6% เนื่องจากราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันปริมาณความต้องการบริโภคข้าวภายในประเทศก็ปรับตัวสูงขึ้น 18 ล้านตันจากจำนวนประชากร 80 ล้านคน มีผลผลิตข้าวสารเฉลี่ย 22.5 ล้านตัน ทำให้เหลือส่งออกอย่างมากที่สุดไม่เกิน 4 ล้านตันเศษ ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสของไทยที่จะอาศัยจังหวะดังกล่าวขยายปริมาณการส่งออก

     "ตลาดอิหร่านเป็นตลาดสำคัญ มีความต้องการบริโภคข้าวเพิ่มขึ้นหลังจากผลผลิตภายในประเทศอิหร่านได้มีจำนวนลดลง ประกอบกับอิหร่านยังมีสถานการณ์ความตึงเครียดทางด้านการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลอิหร่านต้องเพิ่มสต๊อกข้าวเพื่อป้องกันการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตก" นายชูเกียรติกล่าว

     ล่าสุดมีรายงานจากวงการค้าข้าวเข้ามาว่า มีผู้ส่งออกข้าวไทยเพียง 2 ราย คือ ข้าวไชยพร กับนครหลวงค้าข้าว ที่ตกลงทำสัญญาขายข้าวให้กับอิหร่านไปแล้วประมาณ 100,000 ตัน ราคาตันละ 343 เหรียญสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลไทยเองก็มีข้อผูกพันในการส่งมอบข้าวตามสัญญาซื้อขายข้าว G to G กับรัฐบาลอิหร่านลอตที่ 3 ได้อีก 130,000 ตัน ในราคาใกล้เคียงกันกับที่ภาคเอกชนขายคือ ประมาณ 340 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้ภาคเอกชนไม่กังวลเกี่ยวกับการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีหลังมากนัก แม้ว่าสถานการณ์ค่าบาทจะปรับแข็งค่าขึ้นถึง 33.93 บาท/เหรียญสหรัฐก็ตาม เนื่องจากราคาข้าวมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น

     ส่วนตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยอีกตลาดหนึ่ง ปรากฏการนำเข้าข้าวไทยไม่มีความหวือหวามากนัก แต่มีข้อน่าสังเกตว่า จีนนำเข้าข้าวหอมปทุมธานีจากไทยเพิ่มมากขึ้น จากปริมาณข้าวทั้งหมดที่จีนนำเข้าจากไทยประมาณ 700,000 ตัน เนื่องจากข้าวหอมปทุมมีราคา "ต่ำกว่า" ข้าวหอมมะลิ 100 เหรียญ/ตัน โดยข้าวหอมมะลิจำหน่ายอยู่ที่ระดับราคา 580 เหรียญ/ตัน

     สถานการณ์การส่งออกข้าวในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2550 จากรายงานของ กรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ในด้านปริมาณขยายตัวร้อยละ 9.47 ปริมาณ 3,345,002.46 ตัน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออก 3,055,681.92 ตัน มูลค่าขยายตัวร้อยละ 13.32 มูลค่า 43,750.32 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกของภาคเอกชน 3,114,822.46 ตัน และข้าวรัฐบาล 230,180.00 ตัน ตลาดหลักได้แก่ ยุโรปขยายตัวร้อยละ 57.32 รองลงมาได้แก่เอเชีย ร้อยละ 22.47 และแอฟริการ้อยละ 19.93 ตามลำดับ

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
The Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.