www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ตลาดข้าวปี"51 แนวโน้มสดใส ไทยคาดส่งออก 9 ล้านตัน


    กระทรวงเกษตรสหรัฐ คาดการณ์ปริมาณผลผลิตข้าวโลกปี 2550/51 ว่า จะมีปริมาณ 418.5 ล้านตัน สูงกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 0.1 หรือ 3 แสนตัน เป็นผลมาจากปริมาณการผลิตข้าวในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางมีผลผลิต ลดลง โดยเฉพาะจีน อินเดีย และฟิลิปปินส์ ทำให้สต๊อกข้าวโลกลดลงร้อยละ 8 จาก 77.2 ล้านตัน เหลือ 71 ล้านตัน ขณะที่ปริมาณความต้องการบริโภคข้าวโลกจะมีประมาณ 424.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.5 หรือ 6.3 ล้านตัน ส่งผลให้การค้าข้าวโลกปี 2550 จะเพิ่มขึ้นเป็น 29.7 ล้านตัน โดยผู้ส่งออกหลักคือไทย มีปริมาณส่งออก 9 ล้านตัน สูงกว่าประเทศคู่แข่งอื่นๆ ได้แก่ ปากีสถาน 3.2 ล้านตัน จีน 1.5 ล้านตัน เวียดนาม 4.7 ล้านตัน

คาดปี"51 ไทยส่งออกข้าว 9 ล้านตัน

     ในเวทีการสัมมนาทิศทางการค้าข้าวไทย ปี 2550/51 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมโรงสีข้าวไทยนั้น มีการประเมินสถานการณ์ส่งออกข้าวในปี 2551 ว่า จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ไทยสามารถส่งออกข้าวได้มากถึง 9 ล้านตัน สอดคล้องกับผลการประเมินของกระทรวงเกษตรสหรัฐ เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปี 2547 ซึ่งไทยเคยส่งออกข้าวสูงถึง 10 ล้านตัน

     โดยมุมมองของ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เห็นว่าสถานการณ์สต๊อกข้าวโลกจะลดลงจาก 5 ปีก่อน ที่มีปริมาณ 130 ล้านตันข้าวสาร เหลือเพียง 70 ล้านตัน เนื่องจากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชที่ใช้ผลิตพลังงานทดแทนมากขึ้นเพราะได้ราคาดีกว่า แต่ปริมาณความต้องการบริโภคข้าวในปี 2550 จะเพิ่มอีก 1 ล้านตัน จึงกลายเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทย

     ส่วนเวียดนามน่าจะส่งออกได้ 5 ล้านตัน แต่เวียดนามยังจะต้องปฏิบัติตามข้อผูกพันสัญญาการส่งออกข้าวที่ยังค้างส่งอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน เพราะผลผลิตในขณะนี้แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 5.64 แสนตัน แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมปริมาณการส่งมอบข้าวตามสัญญาที่กำหนดไว้ 8 แสนตัน

     ขณะที่อินเดีย ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 3 รองจากไทยและเวียดนาม ก็ยังประสบปัญหาผลผลิต เพราะเกษตรกรหันไปปลูกข้าวสาลีมากขึ้นตามกระแสราคาธัญพืชที่ปรับตัวสูงขึ้น จนรัฐบาลอินเดียต้องออกมาแก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มจำนวนเงินประกันข้าวจาก 7,000 บาทต่อตัน เป็น 10,000 บาทต่อตัน เพื่อเร่งให้เกษตรกรหันมาผลิตข้าวมากขึ้น ส่วนปากีสถานก็ยังมีปัญหาจากการที่รัฐบาลประกาศห้ามรถบรรทุกขนข้าวในเวลากลางวัน โดยอนุญาตเพียงช่วง 23.00-06.00 น. ทำให้การขนส่งข้าวทำได้ลำบากมาก

ปั้น " หอมมะลิ" เจาะตลาดแอฟริกา

     ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ อุปนายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ มองว่าทิศทางการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจคู่ค้าข้าว ถือเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เห็นได้อย่างชัดเจน คือ จีนที่หันไปให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจจับมือกับประเทศในแถบแอฟริกา โดยการไปลงทุนทำธุรกิจน้ำมัน และการก่อสร้าง ทำให้ฐานประชากรจากจีนย้ายเข้าไปในประเทศแถบแอฟริกาจำนวนมาก เช่น ในประเทศแคเมอรูน ซึ่งมีวีซ่าให้กับชาวจีนถึง 7 แสนคน และในอนาคตก็ยังมีแนวโน้มที่จะมีคนจีนย้ายไปอาศัยในแถบนี้มากขึ้น

     สถานการณ์นี้ส่งผลดีต่อการส่งออกข้าวไทยไปแอฟริกา โดยเฉพาะการส่งออกข้าวหอมมะลิเก่า เนื่องจากคนจีนนิยมบริโภคข้าวหอมมะลิมากกว่า และข้าวหอมมะลิเก่าจะมีราคาถูกกว่าข้าวสด 400 เหรียญ ทำให้มีการนำเข้าข้าวหอมมะลิไปตลาดแอฟริกาสัดส่วนมากขึ้น ขณะที่ตลาดจีนมีแนวโน้มที่จะหันมานำเข้าข้าวหอมปทุมธานีใน สัดส่วนเพิ่มขึ้น เป็น 2.5 แสนตัน และนำเข้า ข้าวหอมมะลิลดลงเหลือ 2.5 แสนตัน จากเดิมที่เคยนำเข้าถึง 6 แสนตัน เพื่อทดแทนข้าวหอมมะลิที่มีราคาสูงกว่าถึง 100 เหรียญสหรัฐต่อตัน

     ขณะที่ตลาดเก่าของข้าวหอมมะลิ อย่างเช่นฮ่องกง สิงคโปร์ และสหรัฐ มีอัตราการนำเข้าขยายตัวไม่สูงนัก เฉลี่ยร้อยละ 2-3 ต่อปี และราคาข้าวหอมมะลิที่มีแนวโน้มสูงขึ้นมากจะทำให้ปริมาณการสั่งซื้อล่วงหน้าลดลง ในด้านราคานั้นมี 2 ปัจจัยที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ สถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งที่ผ่านมามีความผันผวนมาก หากปี 2550 ราคาจะดีขึ้นหรือไม่อย่างไรก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยนี้ด้วย

ช็อกราคาข้าวเหนียวดิ่งเหลือ 6 พัน/ตัน

     ในส่วนของข้าวเหนียว ขณะนี้ราคาปรับลดลงมาจาก 12,000-13,000 บาท มาอยู่ที่ราคา 6,500-8,200 บาทต่อตัน สาเหตุสำคัญคือมีการปลูกมากขึ้นถึงร้อยละ 10-20 ทั้งที่การส่งออกข้าวเหนียวปกติจะเฉลี่ย 2 แสนตันต่อปี ทำให้ราคาตกลงอย่างมาก ดังนั้นหากรัฐบาลจะเปิดการรับจำนำก็ควรจะอยู่ในระดับราคาที่สูงกว่าปี 2549/50 ประมาณ 200 บาทต่อตัน หรือประมาณ 8,200 บาท

     "ขณะนี้ผู้ส่งออกต้องระวังในการเก็บสต๊อกข้าวเหนียว เพราะถือว่าเสี่ยงกว่าเก็บสต๊อก ข้าวหอมมะลิ และราคาผันผวนมาก บริษัทเก็บ สต๊อกไว้ 2 พันลูก ขาดทุน 2 ล้านบาท ส่วนกระแสโอลิมปิกในจีนนั้น ส่งผลให้การนำเข้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น"

     ส่วนข้าวถุงนั้น นายรุจจ์ ทรัพย์นิรันดร์ อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เน้นว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับตลาดข้าวในประเทศด้วย โดยการจำหน่ายข้าวในประเทศมี 2 ลักษณะ คือ ข้าวกระสอบแบ่งขาย กับข้าวบรรจุถุง แต่ที่ประสบปัญหาคือข้าวถุง ซึ่งจำเป็นต้องพึ่งโมเดิร์นเทรดเป็นช่องทางจำหน่าย แต่ข้าวถุงถูกห้างค้าปลีกขนาดใหญ่กำหนดเงื่อนไขในการวางจำหน่าย โดยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการวางสินค้า 1 ล้านบาทต่อปี จึงกลายเป็นอุปสรรคในการพัฒนาผู้ประกอบการข้าวถุงรายใหม่ และรายเดิมที่จะผลิตสินค้าใหม่

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
The Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.