www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

พาณิชย์เตรียมรื้อระบบดูแลสต็อกโกดังข้าว


     นายยรรยง พวงราช รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าคณะสายตรวจเฉพาะกิจข้าวในสต็อกของรัฐ เปิดเผยว่า คณะตรวจสอบได้ตรวจนับปริมาณข้าวสารคงเหลือของคณะสายตรวจเฉพาะกิจ ที่คลังพืชไร้ดินและคลัง บจก. เอส เอ็ม เบญจ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยคลังพืชไร้ดินที่ อคส.เช่าเพื่อเก็บข้าว 5% จากโครงการรับจำนำข้าวปี 2549 - 2550 ปริมาณในหนึ่งโกดังราว 2 แสนกระสอบ มีเจ้าหน้าที่ดูแล 2 คน ด้านการตรวจสต็อกข้าวรัฐในวันแรก ยังไม่พบเหตุผิดปกติ โดยกระทรวงพาณิชย์กำหนดให้การตรวจสอบเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้

     ข้าวสารที่รัฐฝากเก็บไว้ในโกดังหรือในคลังสินค้า ที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) เช่าอยู่ มีมูลค่าสูงมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ดูแลมีจำกัด และมีช่องโหว่ตรงที่มีเพียงเจ้าหน้าที่ 2-3 คนเท่านั้นที่ทำหน้าที่ดูแลข้าว ประกอบกับเจ้าหน้าที่มีรายได้ต่ำ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะนำเสนอพร้อมกับรายงานตรวจสอบสต็อกข้าวรัฐทั่วประเทศเฉพาะกิจ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ต่อไป

     ทั้งนี้ หากรัฐสามารถระบายข้าวออกจากสต็อกได้หมด แม้ต้องรับข้าวฤดูกาลใหม่ ก็จะทำให้สต็อกข้าวของรัฐมีปริมาณที่เหมาะสม ประมาณ 1-2 ล้านตัน ซึ่งจะอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม กับการดูแลของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ ขณะที่การนำโกดังหรือโรงสีที่มีคดีต่อรัฐเข้าร่วมโครงการรัฐ เนื่องจากเป็นความผิดที่เกิดขึ้น หลังจากที่รัฐอนุมัตินำข้าวเข้าฝากให้เอกชนแล้ว แต่ถ้าการตรวจสอบครั้งนี้พบพฤติกรรมผิดปกติอีกก็จะทำการขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าร่วมโครงการรัฐได้ต่อ

     อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในบางพื้นที่มีจำนวนโกดังและโรงสี ที่สามารถรับฝากข้าวของรัฐจำกัด เช่น จ.ร้อยเอ็ดมีข้าวมากถึง 7 แสนตันต่อปี แต่มีโรงสี 2-3 แห่ง หากถูกขึ้นบัญชีดำก็จะไม่มีพื้นที่เก็บข้าว และชาวนาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากค่าขนส่ง เพื่อนำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำ ทำให้ปัญหาซ้ำซากต่อเนื่อง เป็นเรื่องของอำนาจต่อรองและปัญหาโลจิสติกส์ ที่รัฐไม่มีโกดังอยู่ในมือพอกับการรับผิดชอบข้าวจากโครงการรับจำนำ

     ขณะเดียวกัน มีแผนจะเสนอให้รัฐปรับมาตรการดูแลข้าว เช่น การปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ดูแลคลัง การเพิ่มจำนวนผู้ถือกุญแจคลัง เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ ซึ่งปัจจุบันโกดังที่มีคดีความหรือมีความเสี่ยง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขอกำลังทหารร่วมรักษาการ และการตวจสอบถี่และละเอียดมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มผลตอบแทนการดูแลข้าวให้สูงขึ้น

     ด้านนายพิสุทธิ์ ชลากรกุล ผู้อำนวยการ อคส. กล่าวว่า อีก 2 สัปดาห์จะสามารถสรุปผลการสอบสวนเจ้าหน้าที่ อคส. ข้อเท็จจริงและความผิดทางวินัย กรณีข้าวสูญหายที่จ.พิจิตร ซึ่งขอย้ำว่าจะสอบสวนให้เกิดความยุติธรรมที่สุด และไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ส่วนความคืบหน้าคดีข้าวคลังอคส.หายขณะนี้อยู่ในการดูแลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งอคส.จะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

     ขณะนี้อคส.กำลังทำแผนวิเคราะห์การทำงาน เพื่อหาต้นทุนการดูแลข้าวในสต็อกที่แท้จริง โดยเสนอแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น เจาะช่องขนาด 40 คูณ 40 นิ้ว ในทุกช่องกำแพงโกดังสำหรับให้เจ้าหน้าที่ชะโงกหน้าเข้าไปดูข้าวว่ามีอยู่ในโกดังจริงหรือไม่

     ทั้งนี้ การตรวจเฉพาะกิจสต็อกข้าวรัฐทั่วประเทศครั้งนี้ เสร็จสิ้นในปลายเดือนก.ย. ก็จะมีการตรวจใหญ่อีกครั้งตามระเบียบสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ที่จะมีขึ้นช่วงเดือนเม.ย.และต.ค.ของทุกปี ซึ่งอคส.ได้เสนอขอให้ใช้ผลการตรวจครั้งนี้เป็นหลักฐานแต่ทางสำนักงานฯ ไม่ยินยอม

ที่มา กรุงเทพธุุรกิจ

 


©
The Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.