นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอราคาซื้อข้าวขาว 5% นาปรังปีการผลิต "49 จำนวน 409,989.53 ตัน และนาปีปีการผลิต "49/50 จำนวน 101,740.79 ตัน เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ปรากฏว่ามีผู้สนใจยื่นเสนอราคาซื้อข้าวจำนวนทั้งสิ้น 24 ราย      

     คณะทำงานพิจารณาจำหน่ายข้าวสารได้เจรจาต่อรองราคาและพิจารณาราคาซื้อขายที่เหมาะสมเสนอรมว.พาณิชย์ ซึ่งได้เห็นชอบให้จำหน่ายข้าวตามที่ได้มีผู้เสนอราคา แบ่งเป็นข้าวขาว 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี"49 เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ปริมาณรวม 409,989.53 ตัน ราคาระหว่างตันละ 10,150-10,720 บาท ให้กับผู้ส่งออกจำนวน 9 ราย ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาสูงสุด ดังนี้ บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด ปริมาณ 65,525.56 ตัน, บริษัท แคปปิตัลซีเรียล จำกัด 215,737.30 ตัน, บริษัท ไทยฟ้า (2511) จำกัด 14,025.43 ตัน, บริษัท อิสเทิร์นไรซ์ จำกัด 21,827.49 ตัน, บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด 12,094.05 ตัน, บริษัท แสงทองค้าข้าว (1968) จำกัด 4,248.84 ตัน, บริษัท เอเซียโกลเด้นไรซ์ จำกัด 51,204.02 ตัน, บริษัท สิงห์โตทองไรซ์คอปอเรชั่น จำกัด 20,035.97 ตัน, บริษัท ไชยพรไรซ์แอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด 5,290.87 ตัน

     สำหรับข้าวขาว 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี "49/50 เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ปริมาณรวม 101,740.79 ตัน ราคาระหว่างตันละ 10,550-10,660 บาท ให้กับผู้ส่งออกจำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาสูงสุด ได้แก่ บริษัท อิสเทิร์นไรซ์ จำกัด 7,375.60 ตัน, บริษัท ไชยพรไรซ์ แอนด์ ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด 91,418.31 ตัน, บริษัท สามเกษตรมิลล์ จำกัด 2,946.88 ตัน

     นางอภิรดีกล่าวว่า การจำหน่ายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลครั้งนี้รัฐบาลสามารถลดปริมาณข้าวในสต๊อกได้กว่า 5 แสนตัน ซึ่งสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาได้ประมาณเดือนละ 14.5 ล้านบาท หรือประมาณปีละ 174 ล้านบาท รวมถึงการต่อรองราคาเพิ่มขึ้นจากราคาที่เสนอซื้อครั้งแรกมีมูลค่าถึง 145.45 ล้านบาท และการจำหน่ายครั้งนี้รัฐบาลมีรายได้เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5,334.61 ล้านบาท

ที่มา ข่าวสด