นายสุรพงษ์ ปรานศิลป์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้าวเหนียวที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 12,600-12,800 บาทต่อตัน จากต้นปีอยู่ที่ 10,061 บาทต่อตัน เป็นผลมาจากประเทศจีนสั่งซื้อเข้ามามาก ทำให้ข้าวเหนียวขาดตลาด
ในปี 2551 คาดว่าเกษตรกรจะนิยมปลูกข้าวเหนียวเพิ่มขึ้น จากราคาที่ล่อใจ จึงได้เตรียมแผนรองรับปริมาณการปลูกข้าวเหนียวที่เพิ่มขึ้น ด้วยการจัดเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวเหนียวให้เพียงพอกับความต้องการ
แต่ละปีเกษตรกรมีความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวเหนียวประมาณ 1 แสนตัน แต่ปัญหาขณะนี้ก็คือ ไม่สามารถผลิตได้ตามความต้องการของเกษตรกร ทำให้ปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าวเหนียวยังคงขาดแคลน และมีปัญหาเมล็ดพันธุ์ไม่มีคุณภาพ
กรมการข้าวได้เตรียมแผนส่งเสริมการปลูกในฤดูกาลหน้า ด้วยการปลูกข้าวเหนียวพันธุ์ดี พันธุ์สันป่าตอง และ กข. 6 เพื่อเก็บไว้ทำเมล็ดพันธุ์ โดยส่งเสริมผ่านเครือข่ายศูนย์ข้าวชุมชนในแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาเมล็ดพันธุ์ขาดแคลนต่อไป
อย่างไรก็ดี กรมการข้าวอยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มเติมว่า ปริมาณความต้องการข้าวเหนียวที่เข้ามามากในช่วงนี้นั้น จะมีความต้องการต่อเนื่องยาวนานเท่าใด คาดว่าอาจจะมีมากในช่วง 1-2 ปีนับจากนี้ ขณะที่ในระยะยาวต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สิ่งที่น่าจับตาคือ จีนก็เริ่มปลูกข้าวเหนียวมากเช่นเดียวกัน หากไทยส่งเสริมการปลูกมากเกินความต้องการของตลาด อาจจะเป็นปัญหาในอนาคตได้ เพราะตลาดจีนคงลดการนำเข้าลง หันไปพึ่งพาผลผลิตในประเทศมากขึ้น
สำหรับผลผลิตในปีนี้ มีพื้นที่ปลูกข้าวเหนียวราว 10 ล้านไร่ กระจายอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ มีผลผลิตเฉลี่ย 500 กก.ต่อไร่ หรือคาดว่าจะมีผลผลิตรวม 5 ล้านตัน
ที่มา โพสต์ทูเดย์
|