www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

โบรกเกอร์ทั่วโลกแห่ซื้อข้าวไทย


     นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ เลขาธิการสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้าว่า มีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยเวลานี้ผู้ส่งออกแต่ละรายได้รับคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่ต้องส่งมอบกันยาวไปถึงไตรมาสแรกของปี 2551 กันแล้ว สาเหตุหนึ่งที่มีคำสั่งซื้อข้าวเข้ามายังผู้ส่งออกไทยค่อนข้างมากนั้น เนื่องจากในปีนี้ประเทศเวียดนามและอินเดีย ได้ประกาศหยุดส่งออกข้าว จึงทำให้ผู้นำเข้าและผู้ค้าข้าว (โบรกเกอร์ข้าว) ซึ่งยังมีความต้องการและหวั่นวิตกว่าปีหน้าจะหาซื้อข้าวไม่ได้ จึงแห่กันเข้ามาจับจองซื้อจากผู้ส่งออกของไทย

     อย่างไรก็ตาม สำหรับโบรกเกอร์ที่สนใจสั่งซื้อข้าวจากผู้ส่งออกข้าวไทยเวลานี้ ล้วนเป็นโบรกเกอร์รายใหญ่ระดับโลก และมีความต้องการข้าวทุกชนิดทั้งข้าวขาว และข้าวนึ่ง อาทิบริษัท ทอฟเฟอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโบรกเกอร์จากสิงคโปร์ หรือบริษัท โนเวล จำกัด บริษัท หลุยส์ เดฟัด จำกัด โบรกเกอร์จากสวิสเซอร์แลนด์ และบริษัท เอดีเอ็ม จำกัด ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ข้าวจากสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

     "การที่ประเทศเวียดนามและอินเดียหยุดส่งออกข้าว ประกอบกับสต๊อกข้าวโลกปี 2550/51 มีเพียง 71 ล้านตันข้าวสารลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาที่มีสต๊อกถึง 77.20 ล้านตันข้าวสาร ขณะเดียวกันธัญพืชอื่นๆ ทั่วโลกมีราคาแพงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งโบรกเกอร์และผู้นำเข้ามีความวิตกว่าปีหน้าจะหาซื้อข้าวไม่ได้และราคาจะแพงขึ้น จึงเข้ามาติดต่อสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า"

     นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ กรรมการบริหารบริษัท เอเชียโกลเด้นท์ไรซ์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ กล่าวเสริมว่า ไม่เพียงแต่โบรกเกอร์ข้าวโลกเท่านั้น ยังมีผู้นำเข้าข้าวโดยตรงเช่นรัฐบาลประเทศอิหร่าน ได้ให้ความสนใจสอบถามราคาและมีความต้องการสั่งซื้อข้าวจากทั้งภาครัฐและเอกชนไทยเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดีขณะนี้ผู้ส่งออกไม่กล้ารับออเดอร์ไว้แล้ว เพราะเกรงว่าถึงเวลาส่งมอบราคาข้าวภายในประเทศจะแพงกว่าราคาที่รับคำสั่งซื้อไว้ จึงชะลอคำสั่งซื้อไว้ก่อน เพราะแต่ละรายถือคำสั่งซื้อไว้กันจำนวนมากและราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

     "ผู้ส่งออกไทยต้องติดตามสถานการณ์ข้าวที่อินเดียอย่างใกล้ชิด เพราะว่าอีก 2 เดือนข้างหน้าจะถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ทำไมอินเดียจึงห้ามส่งออกข้าว เท่าที่ทราบขณะนี้คืออินเดียจะมีการเลือกตั้งจึงอยากให้ประชาชนได้บริโภคข้าวราคาไม่แพง"

     ด้านนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในส่วนของสต๊อกข้าวของรัฐบาลถือว่ามีความโชคดี เพราะเวลานี้สถานการณ์ตลาดค่อนข้างเอื้ออำนวย กระทรวงพาณิชย์เองก็ได้รับการติดต่อสั่งซื้อในปริมาณที่มาก จึงไม่ค่อยห่วงเรื่องสต๊อกข้าวของรัฐบาล

     แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า มีผู้ซื้อข้าวจากต่างประเทศ 3 ราย สนใจซื้อข้าวในสต๊อกของรัฐบาล รวมกันประมาณ 2.3 ล้านตัน ได้แก่ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้สนใจซื้อข้าว 25% ปริมาณ 300,000 ตัน รวมถึงผู้นำเข้าจากยุโรปอีก 2 ราย ที่สนใจซื้อรายละ 1 ล้านตัน โดยทั้งสองประเทศ มีความต้องการซื้อข้าวเพื่อตุนไว้ในสต๊อก เนื่องจากเกรงว่าในปีนี้สต๊อกข้าวโลกลดจึงกลัวว่าจะเกิดการขาดแคลนข้าวได้

     สำหรับสต๊อกข้าวรัฐบาล นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลยังคงมีสต๊อกข้าวคงเหลืออีกจำนวน 3.7 ล้านตัน เมื่อหักข้าวที่รัฐบาลต้องมีสำรองไว้ในประเทศ 1.2 ล้านตัน จึงมีข้าวที่รัฐบาลต้องระบายออกอีกจำนวน 2.5 ล้านตัน

     ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯสหรัฐอเมริกา ได้คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวโลกปี 2550/51 จะมีปริมาณ 418.48 ล้านตันข้าวสาร มากกว่าปี2549/50 ร้อยละ 0.08 (418.16 ล้านตันข้าวสาร) และความต้องการบริโภคข้าวโลกจะมีประมาณ 424.68 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.49 และมากกว่าปริมาณผลผลิต จำนวน 6.197 ล้านตัน หรือร้อยละ 1.48 ส่งผลให้สต๊อกลดลงจาก 77.185 ล้านตันในช่วงต้นปี เป็น 71 ล้านตันในช่วงปลายปี หรือลดลงร้อยละ 8.03

     ส่วนภาวะการค้าข้าวของโลกปี 2550/51 คาดว่าจะมีปริมาณ 29.65 ล้านตันข้าวสาร ปี 2549/50 ปริมาณการค้า 29.55 ล้านตันข้าวสาร โดยไทยยังจะเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกปริมาณ 9 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะส่งออกได้ 8.6 ล้านตันข้าวสาร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.65 รองลงมาเป็นเวียดนามคาดว่าจะส่งออกได้ 4.7 ล้านตันข้าวสารเท่ากับปีนี้ และ อินเดีย 4.1 ล้านตันข้าวสาร ลดลงจากปีนี้ที่คาดว่าจะส่งออกได้ 4.5 ล้านตันข้าวสาร

     ส่วนประเทศผู้นำเข้าข้าวที่สำคัญได้แก่ฟิลิปปินส์ ไนจีเรีย อินโดนีเซีย อิรัก ซาอุดิอาระเบีย และอิหร่าน ขณะที่แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้คาดการณ์ผลผลิตข้าวของไทย ปีการผลิต 2550/51 คาดว่าจะมีผลผลิต 23.48 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเปลือกนาปรัง 6 ล้านตัน

     นายนิสิต เมฆอรุณกมล ประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกในพื้นที่ต่างจังหวัดขณะนี้ เนื่องจากข้าวเปลือกที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวเป็นข้าวที่รีบเกี่ยวเพื่อหนีน้ำท่วมจึงทำให้คุณภาพข้าวไม่ค่อยดี ความชื้นสูงถึง 28-30% โรงสีจึงรับซื้อได้เพียงตันละ 4,000-5,000 บาทเท่านั้น

     สำหรับราคาข้าวสารที่ผู้ส่งออกรับซื้อจากโรงสีปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย อาจเป็นเพราะว่าผู้ส่งออกได้รับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามามาก โดยราคารับซื้อเช่นข้าวขาว 5% กระสอบละประมาณ 1,070 บาท จากช่วง 2 เดือนก่อนกระสอบละ 1,030 บาท แต่ปริมาณไม่มากเพราะผู้ส่งออกมีข้าวที่ประมูลซื้อจากรัฐบาลเมื่อเร็วๆ นี้ส่วนหนึ่งอยู่แล้ว

     ด้านนายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตลาดส่งออกข้าวที่มีแนวโน้มในทิศทางที่ดี เชื่อว่าการรับจำนำข้าวปีนี้คงไม่ถึงตัวเลขที่คณะกรรมการนโยบายข้าว (กขช.)ตั้งไว้ 8 ล้านตัน ซึ่งในส่วนของธ.ก.ส.ได้เตรียมวงเงินรับจำนำไว้ที่ 24,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณข้าวเปลือก 3 ล้านตัน หรือสัดส่วน 10% ของผลผลิตข้าวทั้งประเทศ

     อย่างไรก็ดีหากมีการรับจำนำเกินกว่านี้ ธ.ก.ส.ได้เสนอให้รัฐบาลจัดหางบประมาณมาดำเนินการ เพราะมากกว่านี้ธ.ก.ส.ไม่สะดวก " แต่เชื่อว่าปีนี้ตัวเลขรับจำนำไม่มาก อาจไม่ถึง 3 ล้านตัน เนื่องจากทิศทางตลาดข้าวไปได้"นายธีรพงษ์ กล่าวย้ำ

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

 


©
The Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.