ศ.ดร.ธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม เรื่อง การส่งออกข้าวไปรัสเซีย จีน และประเทศอื่น ๆ ณ ห้องประชุมสำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว ว่า ปัจจุบันการส่งออกข้าวไทยไปยังประเทศคู่ค้าต่างๆ ยังอาจมีข้อติดขัดหรือปัญหาบางประการที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคมอยู่บ้าง กระทรวงเกษตรฯ จึงได้หารือกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้นำเข้า-ส่งออกข้าว หน่วยงานราชการด้านการค้าและต่างประเทศ หอการค้า และห้องปฏิบัติการตรวจสอบรับรองคุณภาพกว่า 10 แห่ง ร่วมกันหาแนวทางและมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการส่งออกข้าว รวมทั้งส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้ตลาดต่างประเทศเกิดความเชื่อมั่นต่อคุณภาพของข้าวไทยด้วย

     สำหรับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ได้รับแจ้งว่าพบข้าวตัดแต่งพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) ในข้าวไทยที่ส่งไปจีน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะไทยยังไม่มีการอนุญาตให้ปลูกเชิงพาณิชย์ ภายหลังพบว่าเกิดจากการปลอมปนข้าวหรือสารปนเปื้อนจากแหล่งอื่นในระบบการจัดการของผู้นำเข้าจีน ขณะที่ข้าวหอมมะลิไทยที่ส่งไปประเทศออสเตรเลียได้รับแจ้งการตรวจพบสารปนเปื้อน แต่เมื่อตรวจสอบซ้ำก็ไม่พบตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนี้ ยังมีกรณีของประเทศรัสเซีย ที่ต้องการรายการเอกสารประกอบการส่งออก ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคทางการค้าของข้าวไทย

     ด้านนายพินิจ กอศรีพร รองโฆษกประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีการส่งออกข้าวไปยังประเทศรัสเซียนั้น สืบเนื่องมาจากการที่ประเทศรัสเซียได้ตั้งกฎเกณฑ์การนำเข้าข้าวจากทุกประเทศอย่างเข้มงวด เช่น ข้าวทุกเที่ยวที่นำเข้าต้องมีข้อมูลสารเคมีปราบศัตรูพืชที่ใช้ วันที่รมยาครั้งสุดท้าย เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคกับผู้ส่งออกโดยเฉพาะรายใหญ่ คือ อินเดีย เวียดนาม และไทย

     “ขณะนี้ไทยได้เร่งดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจ โดยจัดส่งเอกสารไปยังกระทรวงเกษตรของประเทศรัสเซีย โดยระบุถึงรายละเอียดการตรวจสอบว่าสิ่งใดหรือเงื่อนไขใดมีความจำเป็นและไม่จำเป็นในเรื่องของการรับรองคุณภาพสินค้า รวมถึงข้อควรปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือ ประเทศนำเข้าและประเทศผู้ส่งออก” นายพินิจ กล่าว

ที่มา สำนักข่าวไทย