นางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้แล้ว หลังจากนี้วางแผนจะนำไปยื่นขอจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์สินค้าดังกล่าวต่อ สหภาพยุโรป (อียู) ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อการยกร่างคำขอ โดยจะเชิญหน่วยงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการค้าต่างประเทศ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมจัดทำร่าง และคาดว่าจะสามารถยื่นคำขอต่ออียูได้ภายในเดือนก.พ.-มี.ค. 2551

     นอกจากนี้ ตนได้หารือกับกระทรวงเกษตรและประมง และสำนักงานกำกับดูแลสินค้าแห่งชาติ ของประเทศฝรั่งเศส โดยขอให้ฝรั่งเศสสนับสนุน การยื่นจดทะเบียนดังกล่าวด้วย เพื่อเร่งให้การขึ้นทะเบียนได้เร็วขึ้น พร้อมกับขยายความร่วมมือกิจกรรมสินค้าคู่แฝด ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนสินค้า ที่ได้รับคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ทั้งของไทยและฝรั่งเศสร่วมกัน ซึ่งสินค้ารายการแรกที่ได้ร่วมมือกัน คือ การนำผ้าไหมทอยกดอกลำพูนไปเป็นส่วนประกอบการผลิตกล่องบรรจุแชมเปญฝรั่งเศส ซึ่งจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในงานทรัพย์สินทางปัญญาเฉลิมพระเกียรติฯ ที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้นระหว่าง 16-18 พ.ย.นี้

     รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้อียูได้รับขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จากประเทศนอกกลุ่มอียูแล้ว โดยสินค้ารายการแรกที่ได้รับการจดทะเบียน คือ กาแฟโคลัมเบีย หากข้าวหอมมะลิไทยทุ่งกุลาร้องไห้ของไทย ซึ่งมีการปลูกในพื้นที่ ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ มหาสารคาม และศรีสะเกษ ได้รับการจดทะเบียนฯ ในอียู ก็จะเป็นสินค้ารายการแรกของอาเซียนที่ ได้รับการคุ้มครองบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในอียู ส่วนคำขอคุ้มครองจากประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม ซึ่งขอคุ้มครองสินค้าข้าวเวียดนามเช่นกัน

     นางพวงรัตน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีการยื่นขอคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์กับกรมฯ แล้ว 14 คำขอ แยกเป็นคำร้อง ของคนไทยจำนวน 34 ราย ต่างประเทศจำนวน 7 ราย ในจำนวนนี้รับขึ้นทะเบียนแล้ว 22 รายและที่เหลืออยู่ระหว่าง กระบวนการตรวจสอบ แก้ไข ประกาศโฆษณา และอุทธรณ์คัดค้าน

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ