นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ในฤดูกาลผลิตประจำ 2550/2551 ปีนี้คาดว่ามีพื้นที่ปลูกข้าวเจ้าหอมมะลิและข้าวเหนียวกว่า 2 ล้านไร่ อีกทั้งผลผลิตที่ออกมาค่อนข้างดี โดยข้าวเปลือกก็มีแนวโน้มราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณตันละ 1,000 บาท ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว จะมีเงินจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือนมากกว่าทุกปี

     "ขณะนี้หน่วยงานเกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ได้เริ่มเปิดรับจำนำข้าวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ รับจำนำตันละ 9,000-9,300 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมจังหวัดรับจำนำตันละ 7,500-7,800 บาท ข้าวเปลือกพันธุ์ปทุมธานีตันละ 6,900-7,200 บาท และข้าวเปลือกจ้าวตันละ 6,100-6,700 บาท ซึ่งราคารับจำนำปีนี้ ราคาสูงกว่าการรับจำนำข้าวของปีก่อนประมาณตันละ 300 บาท " นายชวน กล่าว

     ในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากจะมีพื้นที่ผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิแบบทั่วไปแล้ว สมาคมเกษตรกรก้าวหน้า ที่สนับสนุนสมาชิกในเครือข่ายจำนวน 736 ราย ทำการผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิแบบเกษตรอินทรีย์ 100% และมีการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยปีนี้ มียอดการสั่งซื้อข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิม 1,500 ตัน เป็นกว่า 2,000 ตัน โดยประเทศที่สั่งซื้อข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์คือ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี ฮอลแลนด์ เยอรมนี และญี่ปุ่น

     "สำหรับราคาข้าวหอมมะลิอินทรีย์ที่ส่งออก มีราคาจำหน่ายสูงกว่าข้าวหอมมะลิทั่วไปประมาณ 3 เท่าตัว หรือเฉลี่ยมีราคาขายกิโลกรัมละเกือบ 100 บาท และจากผลสำเร็จของการผลิตและการส่งออกข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ ในฤดูกาลผลิตปีหน้า จังหวัดอุบลราชธานีจะเข้าไปสนับสนุนเกษตรกรให้ขยายพื้นที่ใช้ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ปริมาณการผลิตเพียงพอกับความต้องการทั้งการส่งออก และจำหน่ายในประเทศด้วย" นายชวน กล่าว

     ทั้งนี้ สมาคมเกษตรกรก้าวหน้า ซึ่งจัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2529 เพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมให้เกษตรกรช่วยเหลือตนเองได้ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น โดยที่ผ่านมาได้จัดทำโครงการธนาคารข้าว โครงการปลูกป่าเศรษฐกิจเพื่อชุมชน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์แห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ส่งไปขายยังต่างประเทศ

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ