นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เปิดเผยว่า ถ้าดูสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยในช่วงนี้ จะพบว่าผู้ส่งออกข้าวได้รับผลกระทบจากปัญหาความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศปรับลดปริมาณการส่งออกข้าวปีนี้ใหม่ จากเดิมตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 8.5 ล้านตัน ลดเหลือแค่ 8 ล้านตันเท่านั้น และสิ่งที่เป็นห่วงคือปริมาณข้าวค้างสตอกของรัฐบาลมีอยู่กว่า 4-5 ล้านตัน และเท่าที่สอบถามผู้นำเข้าข้าวจากไทยทั่วโลกต่างมองว่าปริมาณข้าวไทยปีนี้มีอยู่จำนวนมาก ให้มีการชะลอนำเข้าข้าวจากไทยเป็นจำนวนมากเช่นกัน และจะทำให้ราคาข้าวปีนี้ไม่สูงเหมือนปีที่ผ่านมาได้ ดังนั้นภาครัฐต้องเร่งหาหนทางระบายข้าวสตอกของรัฐบาลให้น้อยลงโดยเร็วต่อไป

     ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากที่นำคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนไปเจรจาขยายตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทย ที่นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฏว่าประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยผู้ส่งออกไทย 3 รายได้บรรลุการเจรจาตกลงทำสัญญาซื้อขายข้าวหอมมะลิไทยรวม 60,000 ตัน มูลค่า 35.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีผู้ส่งออกอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขายกัน ทั้งนี้ข้าวไทยนำเข้าผ่านเมืองท่าที่นครลอสแอนเจลิสมากเป็นอันดับ 1 หรือร้อยละ 36 ของการนำเข้าข้าวรวมของสหรัฐ และช่วง 7 เดือนของปี 2550 ไทยส่งออกข้าวไปสหรัฐแล้ว 206,110.79 ตัน มูลค่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4,080 ล้านบาท โดยร้อยละ 92 เป็นการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย คาดว่าถ้าส่งเสริมการส่งออกอย่างต่อเนื่องจะทำให้ตลาดขยายตัวได้แน่นอน เพราะข้าวหอมมะลิไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง

ที่มา แนวหน้า