คณะอนุกรรมการระบายข้าวสาร จะประชุมเพื่อกำหนดปริมาณข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่จะทยอยระบายออกในแต่ละครั้ง ตามแผนที่เสนอให้ระบายข้าว 650,000 ตัน (ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมจังหวัด ข้าวขาว จากโครงการรับจำนำปี 47/48 และ 48/49) โดยต้องระบายออกภายใน 2-3 เดือนนี้ คาดจะเริ่มได้ในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จากสต๊อกข้าวรัฐทั้งสิ้น 4 ล้านตัน ซึ่งรวมข้าวที่บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ขอยกเลิกสัญญารับมอบ 1 ล้านตันด้วย สาเหตุที่ต้องเร่งระบายข้าว เพราะรัฐบาลต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลจากการ บริหารสต๊อกข้าว 4 ล้านตัน หรือ 1,200 ล้านบาท/ปี อีกทั้งยังมีปัญหาทุจริตอีก
นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการ ค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้เหมาะที่จะเปิดระบายข้าว เพราะคู่แข่งอย่าง เวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน ไม่มีข้าวส่งออกแล้ว แต่ความ ต้องการจากทั่วโลกยังมีมาก ด้านนายพิสุทธิ์ ชลากรกุล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากเพรซิเดนท์ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับข้าวทั้ง 1 ล้านตัน หากพ้นวันที่ 27 ส.ค. ไปแล้ว อคส.จะยึดข้าวกลับมาเป็นของรัฐ และจะเปิดขายทันที เพราะ อคส.ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายสต๊อกข้าวเพรซิเดนท์ 1 ล้านตัน ถึงวันละ 25 ล้านบาท หรือปีละ 300 ล้านบาท.
ที่มา ไทยรัฐ
|