นายพิสุทธิ์ ชลากรกุล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนได้เชิญสมาคมประกันวินาศภัยหารือ เพื่อให้สมาคมประกันวินาศภัยประสานกับบริษัทประกันภัย ให้รับประกันภัยข้าวในสต็อกของรัฐบาล ซึ่งมีปริมาณ 4 ล้านตัน มูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท เนื่องจากความคุ้มครองการประกันภัยข้าวรัฐบาลเดิม จะหมดอายุในเดือนมิถุนายน 2550
ทางอคส.ได้เปิดประกาศเชิญชวนบริษัทประกันภัย เข้ารับประกันภัยข้าวของรัฐบาลมาตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2550 แต่ปรากฏว่าไม่มีบริษัทประกันภัยรายใด ยื่นความจำนงมา โดยทางสมาคมประกันวินาศภัยรับปากจะไปเจรจากับบริษัทประกันภัยต่างๆ ประมาณ 13 บริษัท ให้เข้ามาร่วมรับประกันภัยข้าวของรัฐบาล และหารืออีกครั้งในสัปดาห์หน้า
"เป็นเรื่องใหญ่หากไม่มีบริษัทประกันภัยรับประกันข้าวของรัฐบาล จะทำให้เกิดความเสี่ยง ขอให้สมาคมประกันวินาศภัยหารือด่วน เบื้องต้นสมาคมประกันวินาศภัยอ้างว่า บริษัทประกันภัยกังวลเรื่องภาวะน้ำท่วมฉับพลัน จนเกิดความเสียหายต่อข้าวตามโกดังและจะเกิดภาวะขาดทุน" นายพิสุทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามตนได้แจ้งกับบริษัทประกันภัยว่า โดยปกติแล้วโกดังจะดูแลการขนย้ายเพื่อหนีน้ำเป็นอย่างดีและได้มีการจัดทำเขตป้องกันน้ำอยู่แล้ว ที่ผ่านมาแม้มีน้ำเข้าโกดังบ้าง แต่ก็สร้างความเสียหายเฉพาะกระสอบข้าวที่วางติดพื้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และได้กำชับให้ป้องกันน้ำเข้าโกดังเป็นพิเศษอยู่แล้ว
นายพิสุทธิ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทประกันภัย อคส.ได้เสนอให้แต่ละบริษัทประกันภัยกระจายรับประกันภัยโกดังให้ครบทุกจังหวัดเหมือนกัน ซึ่งมีโกดังกระจายอยู่ 300 แห่งทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ส่วนอัตราเบี้ยประกันภัยยังคงอัตราตันละ 14 บาทต่อความคุ้มครอง 6 เดือน
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการเอาผิดกับข้าวหายในโรงสีจังหวัดนนทบุรี และตรวจสอบมีผู้ส่งออก 7-8 รายรับซื้อข้าวดังกล่าวนั้น ทางโรงสีขอเจรจาชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด เป็นเงินจำนวน 31 ล้านบาทภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ หากดำเนินการได้ตามที่ตกลง ก็จะไม่เอาผิดกับผู้ส่งออก
อย่างไรก็ตามอคส.มีแนวคิดเสนอเพิ่มเติมระเบียบการคัดเลือกโรงสีเข้าร่วมโครงการในด้านฐานะการเงิน ว่า ต้องมีการเช็คประวัติย้อนหลังก่อนว่าถ้ามีปัญหาทางการเงินหรือหนี้สินก็จะหมดสิทธิเข้าร่วมโครงการ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับรัฐบาลเหมือนกับโรงสีรายดังกล่าว แต่ต้องขอความเห็นชอบของบอร์ดอคส.ก่อน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |