นายสุวรรณ คฑาวุธ นายกสมาคมชาวนาไทย เปิดเผยว่า โครงการจำนำข้าวนาปรังปี 2550 ครบกำหนดสิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่การจำนำข้าวในภาพรวมทั้งประเทศเกิดขึ้นไม่มากนัก ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่าระบบวงจรธุรกิจข้าวของประเทศไทยนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากกลไกการตลาดที่เป็นอิสระอย่างเสรีตามธรรมชาติมากนัก และจากการสำรวจข้อมูลที่สมาชิกร้องเรียน พบว่ายังมีข้าวเปลือกชนิดทั่วไปอีกจำนวนกว่า 200,000 ตัน ยังคงหลงเหลืออยู่ในนาข้าว ซึ่งเรื่องนี้ทำให้หลายคนเกรงจะถูกพ่อค้าคนกลาง หรือโรงสีใช้สถานการณ์กดราคาข้าวให้ต่ำลงเหมือนกับหลายครั้งหลายคราที่เคยปฏิบัติกันมา

     นายสุวรรณกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในนามสมาคมชาวนาไทย ได้ทำเรื่องถึงประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข.) เพื่อขอให้มีการพิจารณาให้มีการขยายเวลาการจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2550 หลังสิ้นสุดโครงการครั้งนี้ ออกไปอีก 2 เดือน โดยให้ไปสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้ เพื่อเป็นตัวประกันพยุงราคาไม่ให้ชาวนาถูกเอาเปรียบ แต่ถึงวันนี้สิ้นสุดโครงการแล้วยังไม่ได้รับคำตอบกลับมาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด และชาวนาก็ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตนกันอย่างไร จึงเรียกร้องขอให้ กนข.ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะจะได้ใช้เป็นข้ออ้างพยุงราคาได้ หรือว่ารัฐบาลไม่สนใจจะปล่อยลอยแพกันก็ขอให้บอก ชาวนาจะได้หาแนวทางเพื่อเอาตัวรอดกันต่อไป

ที่มา มติชน