นายวิทยา ฉายสุวรรณ รองอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ในปี 2549 ประเทศจีนได้มีการสั่งข้าวเหนียวจากประเทศไทยมากกว่าทุกปี ส่งผลให้ราคาข้าวเหนียวที่ส่งไปจำหน่ายยังตลาดจีนเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางกรมฯ เป็นห่วงอยู่ในขณะนี้คือ ชาวนาได้หันไปปลูกข้าวเหนียวเพิ่มมากขึ้นจนเมล็ดพันธุ์ข้าวเหนียวไม่เพียงพอ และมีข้อมูลจากหลายพื้นที่แจ้งว่า ชาวนาเลิกปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 อย่างสิ้นเชิง

     ดังนั้นหากสถานการณ์ยังเป็นอยู่แบบนี้ แนวโน้มผลผลิตข้าวเหนียวจะล้นตลาด เนื่องจากประเทศไทยสามารถส่งออกได้ประมาณปีละ 1.8-2.0 แสนตัน และสิ่งสำคัญปริมาณข้าวขาวอกมะลิ 105 ผลผลิตจะลดลง จะทำให้มีปริมาณไม่เพียงพอต่อการส่งออก ซึ่งในแต่ละปีประเทศไทยส่งออกข้าวขาวอกมะลิ 105 ปีละ กว่า 2 ล้านตัน

     นายวิทยากล่าวด้วยว่า ถ้าหากชาวนาต้องการปลูกข้าวเหนียว ต้องมีการวางแผนการผลิตให้ชัดเจนและจะต้องปลูกควบคู่กับการปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 โดยให้มีการแบ่งพื้นที่การปลูกข้าวเหนียวประมาณ 30-40% ของพื้นที่ปลูก และอีกประมาณ 60-70% ให้ปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งหากสามารถทำเช่นนี้ ปริมาณผลผลิตทั้งข้าวเหนียวจะไม่ล้นตลาด และข้าวขาวดอกมะลิ 105 จะมีพอเพียงจำหน่าย ทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศด้วย

     การทำตลาดจะต้องมีความชัดเจน ไม่เช่นนั้นตลาดข้าวเหนียวจะมีผลกระทบต่อเกษตรกร เพราะผลผลิตจะล้นตลาด ทั้งนี้เกษตรกรต้องปลูกข้าวดอกมะลิ 105 ต่อไปเพื่อให้เกิดความสมดุล และป้องการการสูญพันธ์เพราะมีข้อมูลจากหลายพื้นที่แจ้งว่า ชาวนาเลิกปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงนายวิทยากล่าว

ที่มา แนวหน้า