นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่ากรมฯ จะร่วมกับพันธมิตรคือบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด จัดงานข้าวหอมมะลิไทย หอมไกลทั่วโลกวันที่ 9 ส.ค.นี้ แต่จะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 28 ส.ค.นี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยเป็นสินค้าพรีเมียม

     ภายในงานจะมีข้าวหอมมะลิของไทย ที่ผ่านการรับรองจากจังหวัดต่างๆ มาขายตรงให้กับผู้บริโภค ผ่านเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำนวน 96 สาขาทั่วประเทศ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์และท็อปส์ เดลี่ และร้านอาหารภายใต้เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ กว่า 70 ร้านค้า รวมทั้งเสิร์ฟผ่านร้านอาหารในโรงแรม โซฟิเทล เซนทารา กรุงเทพฯ ที่ห้องอาหารสวนบัว, เลอ ดานัง และไดนาสตี้ และห้องอาหาร Foodloft เป็นต้น

     “เป้าหมายการจับมือกับเซ็นทรัลครั้งนี้ เป็นการต่อยอดในการสร้างแบรนด์ข้าวหอมมะลิไทย ให้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภค กระตุ้นให้คนไทยรู้ถึงคุณสมบัติและคุณประโยชน์ของข้าวหอมมะลิไทย หันมาบริโภคข้าวหอมมะลิไทยมากขึ้น ถือเป็นช่องทางจำหน่ายในประเทศอีกทางหนึ่ง” นางอภิรดี กล่าว

     ข้าวหอมมะลิไทยที่ผ่านการรับรองและจะนำมาจัดจำหน่ายในครั้งนี้ เช่น ข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ

     ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการขายจะมีในรูปแบบต่างๆ เช่น บางสาขาจะนำข้าวสารหอมมะลิไทย 100% ออกจำหน่ายในรูปแบบที่ลูกค้าสามารถเลือกตักข้าวสารได้ตามสบาย เป็นข้าวหอมมะลิไทยจากโรงสีที่คัดเลือกจาก 7 จังหวัด แหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน โดยลูกค้าสามารถตักใส่ถุง 2 กก. จำหน่ายในราคาถุงละ 59 บาท ซื้อข้าวหอมมะลิ 100% ชนิดบรรจุภัณฑ์เกรดคุณภาพส่งออกที่มีตราสัญลักษณ์กรมการค้าต่างประเทศบรรจุภัณฑ์ ผ่านสปอต รีวอร์ด คาร์ด ครบทุกๆ 80 บาท รับสิทธิชิงรางวัลเครื่องประดับรูปเม็ดข้าวชุบทองคำขาว มูลค่ารางวัลละ 999 บาท จำนวน 80 รางวัล มูลค่า 79,920 บาท เป็นต้น

     ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าว สอดคล้องกับแผนงานของกรมฯ ที่ต้องการจะผลักดันให้ข้าวหอมมะลิไทยเป็นแบรนด์ที่คนทั้งโลกรู้จัก โดยการผลักดันให้ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม เสิร์ฟข้าวหอมมะลิไทยหรือในห้างสรรพสินค้ามีข้าวหอมมะลิไทยวางขาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวจำนวน 14 ล้านคนที่เดินทางมาไทยในแต่ละปี ได้รู้จักคุ้นเคย เมื่อมาพักโรงแรม กินข้าวในร้านอาหาร จะได้ลิ้มรสข้าวหอมมะลิไทย หากต้องการซื้อก็สามารถหาซื้อได้ในห้างฯ หากติดใจในรสชาติ เมื่อกลับไปบ้านตัวเอง ก็สามารถไปหารับประทานได้ในร้านอาหารไทยที่มีอยู่ทั่วโลก

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ