นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะอนุกรรมการ 4 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการด้านการผลิต มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการผลิตข้าวทั้งระบบ อาทิ ต้นทุน วัตถุดิบ และเทคโนโลยี คณะอนุกรรมการด้านการตลาด มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน มีหน้าที่ดูแลระบบตลาดข้าว และนำระบบการตลาดมาใช้ให้มากขึ้น และถ้าจำเป็นจะมีการแทรกแซงราคาตลาดบ้าง แต่จะพยายามให้น้อยลง คณะอนุกรรมการระดับจังหวัด มีหน้าที่แก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ และจัดการข้าวทั้งประเทศ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาติ
       
     ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะครอบคลุม 2 ด้าน คือ การผลิตและการตลาด โดยจะเน้นทั้งตัวสินค้าและตัวผู้ผลิต คือ ชาวนา ว่าจะทำให้ชาวนามีรายได้ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ จะมีเรื่องการบริหารจัดการข้าวทั้งระบบ ว่าจะทำอย่างไรให้ต้นทุนต่ำลง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นว่า ยุทธศาสตร์ที่จะทำขึ้นไม่ควรมองในด้านมหภาคมากเกินไป แต่ต้องมองภาคเกษตรกรเป็นหลัก ทำอย่างไรไม่ให้เกษตรกรขาดทุน และมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือร่วมกัน เพื่อจัดทำงบประมาณและเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
       
     นายการุณ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติให้ขยายระยะเวลาการจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ประจำปี 2550 ออกไปอีก 1 เดือน ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง โดยขยายเวลาจากวันที่ 31 กรกฎาคม ไปถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้ และภาคใต้ ขยายเวลาจากวันที่ 30 กันยายน ไปถึงวันที่ 31 ตุลาคม ขณะเดียวกัน ยังหารือถึงยุทธศาสตร์ในการเพิ่มผลผลิต โดยกำหนดว่าจะต้องมีตัวเลขผลผลิตข้าวต่อไร่ที่ชัดเจน ซึ่งในส่วนของตัวเลข กระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดว่า จะต้องมีการเพิ่มผลผลิตให้ได้จากเดิม 439 กิโลกรัม/ไร่/ปี เป็น 529 กิโลกรัม/ไร่/ปี หรือ 30 ล้านตัน/ปี เป็น 35 ล้านตัน/ปี ส่วนเรื่องการแทรกแซงราคาข้าว กขช.เห็นว่าจะต้องลดลงเรื่อย ๆ แต่บางจุดต้องเข้าไปแทรกแซง โดยมีการตกลงกันว่า ราคาที่จะเข้าไปแทรกแซงจะสูงกว่าราคาตลาดได้ไม่เกินร้อยละ 10   

ที่มา ผู้จัดการ