นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมเวทีสาธารณะว่าด้วยกฎหมายความปลอดภัยทางชีวภาพ จำเป็นต่อการรักษาฐานทรัพยากรของอาหารของประเทศ เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา นายวิเชียร พวงลำเจียก อุปนายกสมาคมชาวนาไทย ได้กล่าวในที่ประชุมว่ามีความกังวลเกี่ยวกับข้าวพันธุ์อายุสั้น 75 วัน ที่ปลูกแพร่หลายในบริเวณ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และอ.บางเลน จ.นครปฐม โดยเกรงว่าจะเป็นข้าวเปื้อนสารตัดแต่งพันธุกรรมหรือจีเอ็มโอ

     ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับสำนักวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ (สทช.) ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการเก็บตัวอย่างข้าว ที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2 แปลง และอ.บางเลน จ.นครปฐม จำนวน 3 แปลง ผลการตรวจสอบด้วยเทคนิค Real time PCR พบว่าไม่มีการปนเปื้อนสารจีเอ็มโอ และจากการตรวจสอบดีเอ็นเอ พบว่าตัวอย่างที่เก็บได้ทั้งหมดมีลักษณะคล้ายกับข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 อีกทั้งเพื่อความมั่นใจในผลผลิตข้าวของไทยทั้งประเทศ กระทรวงเกษตรฯได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเก็บตัวอย่างข้าว ทั้งภาคเหนือ และภาคกลางมาตรวจสอบรวม 76 ตัวอย่าง ซึ่งจะทราบผลในเร็วๆ นี้

     อย่างไรก็ดีการที่นายวิเชียรระบุให้มีการตรวจสอบ ส่งผลกระทบในเชิงจิตวิทยาและการส่งออกข้าวของไทยมาก โดยทางสหภาพยุโรปหรืออียู ทำหนังสือสอบถามข้อเท็จจริงมายังกระทรวงเกษตรฯ เพื่อขอรับทราบรายละเอียดของผลการตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งได้สั่งการให้กรมการข้าวและกรมวิชาการเกษตร ทำหนังสือถึงกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อทำหนังสือชี้แจงไปยังประเทศผู้นำเข้าทุกประเทศด้วย

     นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การระบุว่าข้าวไทยเปื้อนจีเอ็มโอ ทำให้ประเทศผู้นำเข้าอียู และญี่ปุ่น สอบถามเข้ามาว่าจริงหรือไม่ โดยพืชจีเอ็มโอเป็นที่รังเกียจในวงการค้าข้าวมาก แต่หลังจากกรมวิชาการเกษตร ออกมายืนยันผลการตรวจสอบ คงทำให้ประเทศผู้นำเข้าคลายกังวลมากขึ้น ไม่มีการสั่งระงับหรือชะลอการนำเข้าแต่อย่างใด แต่จำเป็นต้องระมัดระวัง เนื่องจากไทยส่งออกข้าวมากถึง 50% ของปริมาณที่ผลิตได้ หากเกิดการระงับการส่งออกขึ้นมา ทำให้กระทบภาพพจน์การส่งออกข้าวไทย

     สำหรับการส่งออกของไทย ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.- มิ.ย.) ปริมาณส่งออก 6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 55% เทียบปีก่อน ซึ่งมั่นใจว่าการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้จะทำได้เกิน 10 ล้านตันขึ้นไป สูงกว่าเป้าที่กำหนดเอาไว้ที่ 9.5 ล้านตัน

     ทั้งนี้เพราะยังมีหลายประเทศที่มีความต้องการข้าว แต่ยังไม่สั่งซื้อเข้ามาในปัจจุบัน เช่น อินโดนีเซียประมาณ 1 ล้านตัน อิหร่านประมาณ 1 ล้านตัน และไนจีเรียที่ต้องการข้าวนึ่งมากเป็นผลมาจากที่อินเดียไม่สามารถส่งออกได้ ทำให้การส่งออกข้าวนึ่งของไทยที่ส่งออกได้เดือนละ 1.5 แสนตัน พุ่งเป็น 3.5 แสนตันต่อเดือน

     'หากจะวิเคราะห์ตัวเลขการส่งออกข้าวในแต่ละเดือน ตั้งแต่ครึ่งปีแรกที่ไทยทำได้เดือนละ 1 ล้านตัน ในครึ่งปีหลังจะส่งออกข้าวได้ไม่น้อยกว่า 5 แสนตันต่อเดือนแน่ และยังเป็นผลให้ไทยมีตัวเลขการส่งออกเกินเป้าที่กำหนดไว้ 9.5 ล้านตัน' นายชูเกียรติกล่าว

     ส่วนราคาส่งออกข้าวในขณะนี้อยู่ที่ตันละ 850 ดอลลาร์ ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาที่ราคาข้าวสูงขึ้นถึงตันละ 1,000 ดอลลาร์ เนื่องจากประเทศผู้ผลิตข้าวเริ่มทยอยการส่งออกกันบ้างแล้ว แต่คาดว่าราคาเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 600-700 ดอลลาร์ต่อตัน

     นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกรมการข้าวมีกำลังการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร ทำให้เกษตรกรต้องทดลองพันธุ์กันเอง อย่างเช่นกรณีดังกล่าวเป็นการนำพันธุ์ที่ได้จากการทดลองของกรมการข้าวไปปลูก ซึ่งเป็นพันธุ์อายุสั้นประมาณ 65-70 วัน เกษตรกรในพื้นที่ภาคกลางต้องการนำมาปลูกทดลองเพื่อให้ได้ผลผลิตออกเร็วขึ้น ทันกับสถานการณ์ราคาข้าวที่ดีขึ้นในช่วงนี้ ทั้งนี้ รับรองว่าไม่มีข้าวจีเอ็มโออย่างแน่นอน

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ