แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ส.ค. นี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของประเทศมาเลเซีย คาดว่าจะหารือในประเด็นที่มาเลเซียจะสั่งซื้อข้าวจากไทยเพิ่มเติม หลังจากต้นปีที่ผ่านมา มาเลเซียได้ซื้อข้าวจากไทยไปแล้ว 2 แสนตัน โดยมาเลเซียต้องการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศทั้งสิ้น 5 แสนตัน

“มีความเป็นไปได้สูงที่มาเลเซียจะซื้อข้าวจากไทยเพิ่มอีก 1 แสนตัน และที่เหลือมาเลเซียจะเจรจาซื้อจากเวียดนาม ซึ่งจะมีการเจรจาซื้อข้าวควบคู่กับไทย แต่เป็นไปได้ที่มาเลเซียจะซื้อข้าวจากเวียดนามในปริมาณที่สูงกว่าไทย เนื่องจากราคาที่เสนอขายต่ำกว่าประมาณ 100 เหรียญสหรัฐ/ตัน” แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากนี้ ในเดือน พ.ย. นี้สมาคมส่งออกข้าวไทยกับสมาคมส่งออกข้าวของเวียดนาม จะประชุมร่วมกันที่โฮจิมินห์ เพื่อประเมินสถานการณ์ค้าข้าวในปลายปีนี้ และแนวโน้มปี 2552 โดยจะมีการหยิบประเด็นการกำหนดราคาส่งออกข้าวมาหารือว่า เพราะเหตุใดเวียดนามจึงกำหนดราคาข้าวค่อนข้างต่ำ ที่สำคัญราคาที่เวียดนามเสนอขายเปรียบเทียบกับไทยแล้วต่ำกว่ามากจนผิดสังเกต

ทั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลทั้งสองประเทศสานต่อความร่วมมือกำหนดราคาข้าวในตลาดโลกด้วย หลังจากถูกละเลยมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ น่าจะหยิบขึ้นมาหารือในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้แล้ว จะเปิดเจรจากันในระดับรัฐบาลของทั้งสองประเทศแก้ปัญหาการขายตัดราคากัน

ด้านนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่มาเลเซียจะซื้อข้าวเพิ่มจากไทยอีก 1 แสนตัน และน่าจะตกลงกันได้ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ ส่วนราคานั้นประเมินว่าจะเป็นไปตามราคาซื้อ-ขายในตลาด ซึ่งข้าวขาว 5% ราคาส่งออกยังอยู่ที่ตันละ 860-870 เหรียญสหรัฐ

“เพื่อให้การระบายข้าวในสต๊อกจำนวน 3.4 ล้านตันของรัฐบาล ดำเนินการได้โดยเร็วไม่ให้ส่งผลกระทบต่อโครงการรับจำนำข้าวนาปีฤดูกาลผลิต 2551/2552 ที่กำลังจะดำเนินการ เนื่องจากผลผลิตสูงถึง 23 ล้านตัน กระทรวงพาณิชย์จะร่วมหารือกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพิ่มสิทธิพิเศษจูงใจผู้ส่งออกทั้งรายเล็กและรายใหญ่ เช่น โบนัสพิเศษสำหรับรายที่ซื้อข้าวรัฐเพื่อส่งออกในปริมาณที่สูง เป็นต้น” นายไชยา กล่าว

ที่มา โพสต์ทูเดย์