นางสาวณัฐฐิรา ลิ่ววรุณพันธ์ รองผู้อำนวยการคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ผลการเปิดซองเสนอราคาซื้อข้าวในสต๊อกของรัฐบาลปริมาณรวม 1.37 ล้านตัน มี ผู้ร่วมเสนอราคาจำนวนมากจนซ้ำโกดังกัน รวมถึง 4.04 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นผู้เสนอประมูลเป็นข้าวเพื่อการส่งออกต่างประเทศ 17 ราย ปริมาณเสนอซื้อ 2.83 ล้านตัน จากปริมาณข้าวในสต๊อก 1.18 ล้านตัน ส่วนข้าวสารเพื่อจำหน่ายในประเทศและ/หรือส่งออกต่างประเทศ มีผู้เสนอราคา 22 ราย ปริมาณ 1.2 ล้านตัน จากปริมาณสต๊อกที่มี 1.91 แสนตัน
"ครั้งนี้มีการแข่งขันราคาเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะข้าวขาว 25% มีผู้เสนอซื้อจำนวนมากขึ้น และให้ราคามีตั้งแต่ 6,800-9,410 บาทต่อตัน ดีกว่าการประมูลครั้งก่อนที่มีเพียงบริษัทสยามอินดิก้า รายเดียวที่เสนอซื้อยกลอต แต่ให้ราคา 6,800 บาท ส่วนข้าวขาว 5% ส่วนใหญ่มีราคาสูงกว่า 15,000 บาทต่อตัน ใกล้เคียงกับราคาตลาดที่ 16,000-17,000 บาท โดยทาง อคส.จะสรุปรายชื่อผู้ที่เสนอราคาสูงสุด 3 อันดับแรกในแต่ละชนิดข้าว เพื่อต่อรองในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ และเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสารใน สต๊อกรัฐบาลต่อไป" นางสาวณัฐฐิรากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประมูลครั้งนี้เป็นไปอย่างคึกคัก เพราะมีการยื่นและเปิดซองในวันเดียวกัน และเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองในระยะนี้ โดยผู้ส่งออกส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดิมกับการประมูลครั้งก่อน โดยเฉพาะบริษัทสยามอินดิก้ากลับมายื่นเสนอราคาซื้อข้าวขาว 25% ทั้งหมด โดยให้ราคาเฉลี่ย 7,800 บาทต่อตัน สูงกว่าคราวก่อนที่ 6,800 บาทต่อตัน โดยมีการคาดว่าอาจจะปรับขึ้นราคาได้อีกถึง 8,000 บาทต่อตัน และบริษัทดังกล่าวจะสามารถเข้าร่วมประมูลได้หลังจากเซ็นสัญญาซื้อขายข้าวที่ประมูลไปครั้งก่อน 5 แสนตัน ภายในกำหนดเวลาวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาแน่นอน เพราะบริษัทน่าจะได้รับอนุมัติเงินกู้จากธนาคารกรุงไทย เพื่อเสริมสภาพคล่อง ให้บริษัทดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพื่อจะได้นำเงินรายได้กลับมาชำระหนี้ของบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด
ส่วนข้าวขาว 5% นาปรัง มีผู้เสนอราคา เช่น บริษัทพงษ์ลาภ 15,000 บาทต่อตัน ไชยพร 15,300 บาท, นครหลวง 14,800-15,400 บาท, ไทยมาพรรณ เทรดดิ้ง 15,650-15,950 บาท
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
|