แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการค้าข้าว เปิดเผยว่า วงการค้าข้าวกำลังสับสนกับนโยบายของนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะระบายข้าวล็อตใหญ่ในสต็อกรัฐบาลประมาณ 5 ล้านตัน ให้กับผู้ส่งออก เนื่องจากยังไม่มีมติจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ว่าจะให้หน่วยงานใดเป็นผู้ดูแลระบบข้าว จนทำให้ตลาดข้าวขณะนี้เกิดความปั่นป่วน
ทั้งนี้ ราคาข้าวในตลาดได้ตกต่ำลงมาอีกครั้ง หลังจากที่ผู้ส่งออกชะลอซื้อข้าวในตลาดกับโรงสี เพราะรอการระบายข้าวล็อตใหญ่ จากทางกระทรวงพาณิชย์ ส่งผลให้ราคาข้าวสารในตลาดลดลงตันละ 1,000 บาท จากเดิมราคาตันละ 2.1 หมื่นบาท ลดลงมาเหลือไม่เกินตันละ 2 หมื่นบาท
“การออกมาประกาศระบายข้าวล็อตใหญ่ของทางนายไชยา ถือเป็นทุบราคาข้าวในตลาด ซึ่งเพียงแค่ระยะเวลาแค่สัปดาห์กว่าๆ ที่ รมว.พาณิชย์ ให้ข่าวทุกวัน ทำให้ผู้ส่งออกหยุดซื้อข้าวกันหมดแล้ว หากรัฐบาลเทสต็อกขายล็อตใหญ่จริง อาจทำให้ราคาข้าวในตลาดยิ่งร่วงหนัก อาจลดลงเหลือตันละ 1.5 หมื่นบาทด้วยซ้ำ” แหล่งข่าวกล่าว
พร้อมกันนี้ วงการค้าข้าวยังตั้งข้อสังเกต ถึงการระบายข้าวของ รมว.พาณิชย์ ว่าไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำออกมาให้ชัดเจน เพราะหากไม่ใช้วิธีการประมูล ก็ควรกำหนดราคาขายออกมา
“ต้องจับตาให้ดีว่าข้าวที่รัฐบาล จะเทสต็อกขายให้เป็นข้าวเปลือก หรือข้าวสาร ถ้าขายข้าวสาร 1.4 หมื่น รัฐบาลขาดทุนมหาศาล ซึ่งรัฐต้องกำหนดออกมาให้ชัดเจน และควรเป็นมติ ครม.ออกมาเพื่อความโปร่งใส ไม่ใช่เร่งรีบทำให้เกิดความสงสัยของสังคม” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า รัฐบาลควรทยอยระบายสต็อกข้าวไม่ให้เป็นล็อตใหญ่มากให้กับผู้ส่งออก เพราะจะยิ่งเป็นการผูกตลาดข้าวให้กับรายใหญ่เพียงรายเดียว ให้มีอำนาจเหนือตลาด ควรระบายครั้งละไม่เกิน 5 แสนตัน
นายวรพงษ์ พิชญ์พงศ์ศา ประธานบริษัท นครหลวงค้าข้าว กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทาง รมว.พาณิชย์ ให้เข้ามาเสนอซื้อข้าวในสต็อกรัฐบาลตามที่เป็นข่าว คงต้องรอดูเงื่อนไขการระบายข้าวครั้งนี้ของรัฐบาลก่อน ถึงจะตัดสินใจเข้าไปร่วมซื้อข้าว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |