นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ได้เซ็นอนุมัติการขายข้าวให้กับเอกชนที่เปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกรัฐบาลที่เปิดประมูลครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ปริมาณที่อนุมัติให้ระบายออกประมาณ 1 ล้านตัน จากที่เปิดประมูลประมาณ 1.37 ล้านตัน ซึ่งถือว่าได้ราคาดีกว่าการเปิดประมูลครั้งแรก โดยข้าวขาวนาปรังขายได้ประมาณตันละ 1.6-1.7 หมื่นบาท ข้าวขาว 25% ได้ราคาตันละประมาณ 8-9 พันบาท

“การขายข้าวช่วยทำให้รัฐมีพื้นที่สต็อกว่าง เพื่อรองรับข้าวฤดูกาลใหม่ ที่กำลังรับจำนำอยู่ในขณะนี้ และขายได้ราคาดีพอควร โดยข้าวขาวถือว่าได้ราคาใกล้เคียงกับราคาตลาดขณะนี้ เพราะขายได้ราคาตันละ 1.6-1.7 หมื่นบาท คนที่เสนอต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาทก็ไม่ขาย ส่วนข้าวขาว 25% ได้ราคาดีกว่าครั้งก่อนมาก ขายได้ตันละ 8- 9 พันบาท ครั้งก่อนเสนอมาเฉลี่ยตันละ 6.8 พันบาทเท่านั้น” นายไชยา กล่าว

นายไชยา ประชุมกับผู้บริหารกระทรวง เพื่ออำลาตำแหน่งโดย ระบุว่า การเข้ามาบริหารงานภายในกระทรวงพาณิชย์ที่ผ่านมา ถือว่าสามารถทำตามนโยบายที่ให้ไว้ได้ดีพอสมควร ซึ่งจุดแข็งของไทยอยู่ที่ภาคการเกษตร จะเห็นว่าราคาข้าวเปลือกจากอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยถึง 10,000 บาทต่อตัน แต่รัฐบาลสามารถยกระดับให้ราคาข้าวเปลือกเกิน 10,000 บาทต่อตัน ต้องฝาก รมต.พาณิชย์คนใหม่ให้พยายามกำหนดราคาข้าวให้ได้

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การขายข้าวในครั้งนี้ รัฐบาลขาดทุนเป็นจำนวนมาก เพราะต้นทุนข้าวนาปรังรับจำนำเข้ามาตันละ 2.2-2.3 หมื่นบาท ขายได้เฉลี่ยตันละ 1.6-1.7 หมื่นบาท ขาดทุนตันละ 5-7 พันบาท ข้าวขาว 25% ต้นทุนตันละ 1.2 หมื่นบาท ขายได้ตันละ 8-9 พันบาท ขาดทุนตันละ 3-4 พันบาท รวมแล้วในการขายข้าว รัฐบาลขาดทุนเกือบ 1 หมื่นล้านบาท จากปริมาณข้าวที่จะขายประมาณ 1 ล้านตัน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. เป็นการเปิดประมูลข้าวครั้งที่ 2 ในสมัยที่นายไชยานั่งเป็น รมว.พาณิชย์ โดยในครั้งแรกเปิดประมูล 3.1 ล้านตัน อนุมัติขาย 1.5 ล้านตัน ซึ่งครั้งนั้นผลการขายทำให้รัฐบาลขาดทุนไปแล้วประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นการขายข้าวในราคาต้นทุนที่ซื้อมา แทนที่จะขายข้าวในราคาตลาด

แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดประมูลข้าวครั้งนี้ เป็นไปอย่างรีบเร่งมาก เพราะเปิดให้ยื่นซองวันที่ 28 พ.ย. และวันที่ 29-30 พ.ย. เป็นวันเสาร์ อาทิตย์ แต่เมื่อถึงวันจันทร์ที่ 1 ธ.ค. นายไชยา ก็มีการเซ็นอนุมัติขายทันที ทั้งๆ ที่รายละเอียดต่างๆ ยังไม่ครบถ้วน

นอกจากนี้การเซ็นอนุมัติดังกล่าวเกิดขึ้น ก่อนที่จะศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดียุบพรรคในวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งทำให้นายไชยา ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ต้องพ้นจากตำแหน่งและต้องเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ