นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.มีแนวคิดจะทำโครงการส่งออกข้าวไทยไปต่างประเทศ โดยร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ เอ็กซิมแบงก์ ผ่านบริษัทไทยธุรกิจเกษตร จำกัด (แท็บโก้) ที่ธนาคารได้ร่วมทุนทำธุรกิจกับสหกรณ์การเกษตรและการตลาดลูกค้าธนาคาร (ส.ก.ต.)

"เราได้หารือเรื่องดังกล่าวกับผู้บริหารเอ็กซิมแบงก์แล้ว เพราะเอ็กซิมแบงก์มีความเชี่ยวเกี่ยวกับการส่งออก ซึ่งทางผู้บริหารของเอ็กซิมแบงก์ก็เห็นด้วยในหลักการเบื้องต้น" นายเอ็นนู กล่าว

ทั้งนี้ การเตรียมการโครงการดังกล่าวนั้น ขณะนี้ ธ.ก.ส.จะเตรียมนำข้าวหอมมะลิที่ปลูกในเขตภาคอีสาน เช่น จังหวัดอุบลราชธานี หรือ จังหวัดสุรินทร์ ที่พิจารณาแล้วว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีจริงๆ มาคัดไว้ จากนั้น จะติดต่อไปยังธนาคารเกษตรของประเทศจีนเพื่อติดต่อขายข้าวดังกล่าว

"เราจะหารือกับผู้ประกอบการโรงสีในจังหวัดอุบลฯ และสุรินทร์ ที่มีการทำข้าวส่งออกเดิม และมีตราสินค้า ซึ่งเป็นที่รู้จักเดิมอยู่แล้วเข้ามาร่วมโครง การฯ โดยผ่านบริษัทแท็บโก้ ที่ทำธุรกิจให้กับ ส.ก.ต. ซึ่งจากเดิมนั้น แท็บโก้ยังไม่เคยส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศมาก่อน แต่จากนี้ต่อไปจะเริ่มดำเนินงานเป็นธุรกิจจริงๆ ให้มากกว่าที่ผ่านมา" นายเอ็นนู กล่าว และว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ส่งเจ้าหน้าที่ ไปคุยกับธนาคารเกษตรของจีนแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบระบบการส่งออกข้าว

นอกจากนั้น ธ.ก.ส.กำลังพิจารณาเกี่ยวกับการขายสิทธิ์ล่วงหน้า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาของการจำนำข้าวที่ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างมาก โดยหลักการเบื้องต้น คือ หากเกษตรกรจะปลูกข้าว ธ.ก.ส. ก็จะประกาศราคาข้าวเอาไว้ล่วงหน้า 6 เดือน

โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านราคาข้าวจะเป็นผู้กำหนด เช่น กำหนดราคาข้าวล่วงหน้าเอาไว้ที่ 15,000 บาท/ตัน เพื่อให้ชาวบ้านเชื่อมั่นว่า สินค้าของตนเองจะจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม

หากในช่วงระหว่าง 6 เดือน ราคาข้าวในตลาดสูงกว่านี้เกษตรกรก็มีสิทธิ์ขายได้ แต่หากราคาต่ำกว่านี้ เมื่อเกษตรกรไปขายข้าวกับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการ ธ.ก.ส.จะเป็นคนจ่ายส่วนต่างชดเชยให้เท่ากับราคาที่เคยตกลงกัน

"ตั้งเป้าว่าจะเสนอความคิดดังกล่าวนี้ ให้รัฐบาลพิจารณา เพื่อใช้กับนาปี ในเดือน ธ.ค.นี้ แต่ขณะนี้ความไม่แน่นอนทางการเมือง เลยไม่แน่ใจว่าจะเริ่มได้เลยหรือไม่"

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ