พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ ตนจะเสนอในการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาข้าวครบวงจร ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้พิจารณาเร่งระบายข้าวขาว 5% ปริมาณ 1.1 ล้านตัน จากสต็อกข้าวรัฐบาลที่มีอยู่ 2.1 ล้านตัน เพื่อนำเงินจากการเปิดประมูล มารองรับการเปิดโครงการรับจำนำที่จะมีขึ้นต่อไป รวมถึงการเตรียมพื้นที่รองรับข้าวและโกดังฝากเก็บ จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2551/2552 ที่รัฐบาลอาจประกาศรับจำนำในเร็วๆ นี้ ซึ่งหากมีรับจำนำจริง คาดว่าราคารับจำนำจะมากกว่าตันละ 14,000 บาท เพราะข้าวมีคุณภาพดีกว่าข้าวเปลือกนาปรัง

     “ตอนนี้ ต้องเร่งระบายข้าวออกจากสต็อกรัฐให้เร็วที่สุด ซึ่งคงจะเป็นการเปิดประมูล โดยอาจกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำ และน่าจะระบายครั้งเดียวล็อตใหญ่ๆ คิดว่า ไม่น่าจะทำให้ราคาตลาดตกลง เพราะผู้ส่งออกก็รอซื้อส่งออกอยู่ ที่ต้องเร่งระบายก็เพื่อเตรียมที่สำหรับเก็บข้าว และเอาเงินมาสำหรับรับซื้อข้าวในโครงการรับจำนำต่อไป ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม ยิ่งเก็บคุณภาพก็จะยิ่งเสื่อม ขายได้ราคาน้อยลง ถ้าขายไปตั้งแต่ที่ผมพูดครั้งแรกๆ ป่านนี้ได้กำไรไม่รู้เท่าไรแล้ว” พ.ต.ท.บรรยินกล่าว

     นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะสม ที่รัฐบาลจะประกาศระบายข้าวออกจากสต็อกรัฐบาล เพราะอาจทำให้ราคาข้าวภายในประเทศตกต่ำลงได้ เนื่องจากการระบายสต็อกรัฐออกมาทั้ง 1 ล้านตัน ทำให้มีปริมาณข้าวในตลาดมากขึ้น มีโอกาสทำให้ราคาตกลง ประกอบกับ ตลาดค้าข้าวยังซึมยาว เพื่อรอดูการส่งออกของเวียดนาม

     นอกจากนี้ยังคาดว่าอินเดียจะกลับเข้าสู่ตลาดส่งออกภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ในส่วนของข้าวขาว ส่วนข้าวบาสมาติและข้าวสาลีน่าจะปล่อยให้มีการส่งออกได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งข้าวขาวของอินเดียอาจจะออกมาสู่ตลาดพร้อมกับข้าวนาปีของไทย และจะเป็นเหตุให้ราคาข้าวนาปีของไทยตกต่ำลงได้ ผู้บริหารนโยบายข้าวจึงควรใช้ความระมัดระวัง

     ราคาส่งออกข้าวขณะนี้ลดลงต่อเนื่อง โดยราคาเปรียบเทียบระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.2551 กับวันที่ 2 ก.ค.2551 ข้าวหอมมะลิตันละ 1,086 ดอลลาร์ ลดเหลือ 1,057 ดอลลาร์, ข้าวขาว 100% ตันละ 862 ดอลลาร์ เหลือ 849 ดอลลาร์, ข้าวเจ้า 5% ตันละ 846 ดอลลาร์ เหลือ 833 ดอลลาร์ และข้าวเหนียว 681 ดอลลาร์ เหลือ 650 ดอลลาร์ เพราะประเทศนำเข้าชะลอการสั่งซื้อ โดยสต็อกข้าวเต็ม ประกอบกับเวียดนามเริ่มส่งออกอีกครั้ง โดยประกาศเป้าหมายส่งออกปีนี้ที่ 4.5-5 ล้านตัน ผู้นำเข้าจึงรอดูสถานการณ์ส่งออกเวียดนามว่าจะมีข้าวพอหรือไม่ ซึ่งหากส่งออกได้เต็มกำลัง อาจทำให้ราคาในตลาดลดลงได้อีก

     นายชูเกียรติ กล่าวว่า การรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังที่ตันละ 14,000 บาท จะสร้างปัญหาต่อการส่งออกไทย เพราะราคารับจำนำค่อนข้างสูงทำให้ผู้ส่งออกไทยมีต้นทุนสูง เมื่อเทียบกับเวียดนามที่เพิ่งกำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำที่ตันละ 780 ดอลลาร์ ทำให้แข่งขันได้ลำบากขึ้น

     อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า รัฐอาจประกาศรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 2551/2552 ในเร็วๆ นี้ โดยราคาน่าจะไม่ต่ำกว่าตันละ 14,000 บาท ซึ่งจะยิ่งสร้างความลำบากให้กับผู้ส่งออกมากขึ้น

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ