แหล่งข่าวในคณะกรรมการแปรสภาพและการจัดเก็บข้าว โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 ที่มีนายสุทัศน์ สุทันกริตะ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าวันที่ 1 ตุลาคม 2551 ได้มีการประชุมคณะกรรมการ และได้มีการสั่งแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารล็อตสุดท้าย หลังจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 กันยายน โดยมีข้าวเปลือกที่สั่งสีครั้งนี้จำนวน 263,000 ตัน และจะต้องส่งมอบข้าวสารให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 14 ตุลาคม ศกนี้

ตั้งแต่เปิดโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 วันที่ 15 มิถุนายนถึงวันที่ 30 กันยายน มีข้าวเปลือกเข้าสู่โครงการทั้งสิ้น 3.96 ล้านตัน แปรเป็นข้าวสารได้ 2.08 ล้านตัน ในจำนวนนี้โรงสีที่เข้าร่วมโครงการได้สีข้าวและส่งมอบข้าวสารเข้าโกดังกลางแล้วประมาณ 80% หรือราว 1.6
ล้านตันข้าวสาร ยังคงเหลือค้างส่งมอบอีกประมาณ 20% หรือราว 400,000 ตัน สาเหตุค้างส่งมอบโรงสีให้เหตุผลว่าเกิดจากปัญหาขาดแคลนกระสอบบรรจุข้าว จึงทำให้ไม่มีกระสอบบรรจุข้าวส่งมอบ

อย่างไรก็ดีคณะกรรมการยังไม่มีการพิจารณาผ่อนผันให้กับโรงสีที่ค้างส่งมอบข้าว โดยโรงสีต้องเสียค่าปรับค้างส่งมอบร้อยละ 0.1 ของมูลค่าข้าวต่อวัน หรือร้อยละ 36 ต่อปี (มูลค่าข้าวคำนวณจากราคาข้าวเปลือกที่รับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 5% ตันละ 13,800 บาท) แม้ว่าโรงสีจะมีเหตุผลว่าเกิดจากปัญหาขาดแคลนกระสอบบรรจุข้าวก็ตามทั้งนี้เนื่องจากหากมีการผ่อนผันจะเท่ากับไปเอื้อประโยชน์ให้กับโรงสีที่มีเจตนาไม่ส่งมอบอยู่แล้ว

โดยโรงสีกลุ่มนี้จะนำข้าวจากโครงการจำนำไปขายในท้องตลาดซึ่งขณะนั้น (ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม) ราคาข้าวสารในตลาดยังสูงกระสอบละ 2,200-2,300 บาท หลังจากนั้นจึงมาซื้อข้าวเปลือกช่วงปิดโครงการซึ่งราคาจะลงสีส่งมอบรัฐบาล

ทั้งนี้หลังจากปิดโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปรังเมื่อวันที่ 30 กันยายน พบว่าราคาซื้อขายข้าวสารในตลาดกรุงเทพฯลดลงทันทีจากกระสอบละ 2,030 บาท ลงเหลือกระสอบละ 2,000 บาท และวันที่ 2 ตุลาคม ตลาดหยุดซื้อขายไม่มีการแจ้งราคา เพราะผู้ซื้อมองว่าราคาจะลงไปอีก เนื่องจากเป็นช่วงสุญญากาศเพราะจะเริ่มจำนำนาปีวันที่ 16 ตุลาคม และข้าวเปลือกความชื้น 15% ซึ่งเป็นข้าวแห้งเกษตรกรขายได้ตันละ 11,000 บาท แต่ถ้าเป็นข้าวสดราคาจะไม่ถึงตันละหมื่นบาท

"ในช่วงนี้เป็นโอกาสที่โรงสีค้างส่งมอบข้าวจะไปซื้อข้าวเปลือกราคาถูกมาสีเป็นข้าวสารส่งมอบรัฐบาล เพราะฉะนั้นคณะกรรมการจึงไม่ต้องการอะลุ้มอล่วย ต้องคิดค่าปรับให้ถึงที่สุด"

อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวกล่าวว่าได้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำ เสนอให้มีการประชุมคณะกรรมการอีกครั้งในวันที่ 15 ตุลาคม เพื่อพิจารณาผ่อนปรนให้กับโรงสีเป็นรายๆ ไป เพราะโรงสีบางโรงมีเหตุสุดวิสัยขาดแคลนกระสอบจริงจึงไม่สามารถส่งมอบข้าวได้

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ