นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่โรงสีเรียกร้องให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้มีสภาพคล่องเพิ่มเติม เพื่อรองรับการซื้อข้าวจากเกษตรกรนั้น ธ.ก.ส.พร้อมพิจารณาปล่อยกู้ให้กับโรงสีต่างๆ โดยได้เตรียมวงเงินไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่การปล่อยกู้ให้กับโรงสีจะเลือกให้เฉพาะผู้ที่ทำงานร่วมกันและช่วยเหลือเกษตรกรมาตลอด หากรายใดเอาเปรียบเกษตรกร อาจไม่ได้รับการปล่อยกู้ และจะโอนเงินกู้ให้กับลูกค้า ธ.ก.ส.โดยตรง หากต้องการรับซื้อข้าวจากชาวนา เพื่อป้องกันการเวียนเทียนข้าวมาขอกู้

     ก่อนหน้านี้ ราคาข้าวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากผู้ส่งออกชะลอรับออเดอร์จากต่างประเทศ ประกอบกับโรงสีอ้างภาวะขาดสภาพคล่อง จึงไม่รับซื้อข้าว ส่งผลให้ราคาข้าวตกต่ำ ชาวนาหลายพื้นที่เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลเสถียรภาพราคาไม่ให้ตกต่ำกว่าเกวียนละ 12,000 บาท

     นายธีรพงษ์กล่าวว่าขณะนี้ราคาข้าวเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ยืนยันว่าจากนี้ไปคงไม่เห็นราคาข้าวเปลือกปรับลดลงไปอยู่ที่เกวียนละ 10,000 บาท เพราะสถานการณ์ราคาในตลาดโลกและความต้องการบริโภคข้าวในแต่ละประเทศมีมาก

     ส่วนการเรียกร้องให้รัฐบาลรับประกันราคาข้าวเปลือกในช่วงการทำนาปรัง คงไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นการเพาะปลูกเพียงช่วงระยะสั้น และเพื่อเป็นการดูแลเกษตรกรและผู้ค้า ได้หารือเบื้องต้นถึงแนวทางค้ำประกันราคาข้าว เมื่อถึงกำหนดระยะเวลาการส่งมอบ จะทำให้ได้รับมอบส่งข้าวตามกำหนด และผู้ขายจะได้รับเงินในราคาที่ตกลงไว้

โรงสียอมรับราคาผันผวน

     นายวัลลภ รุ่งสุริยะศิลป์ ผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอลซีเรียลส์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงสีข้าวใหญ่ที่สุดใน จ.พระนครศรีอยุธยา ยืนยันบริษัทรับซื้อข้าวจากเกษตรกรเฉลี่ยวันละเกือบหมื่นตัน หากดูราคาถัวเฉลี่ย ขณะนี้ผันผวนบ้าง บางช่วงประเทศผู้นำเข้าข้าวจากไทยชะลอการนำเข้า เพราะไม่มั่นใจสถานการณ์ราคาข้าวของไทย แต่ทางบริษัทได้ยืนยันกับผู้นำเข้าข้าวว่า ราคาข้าวส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้นและลดลงไม่มาก คงไม่ผันผวนมากเกินไปและผลผลิตข้าวไทยมีเพียงพอ เชื่อว่าผู้นำเข้าข้าวส่วนใหญ่จะเข้าใจ ที่ผ่านมาทางบริษัทไม่มีนโยบายชะลอรับซื้อข้าว แต่มีปัญหาบางกรณีบางช่วงผู้นำเข้าข้าวไทยไม่มั่นใจในราคา หากเกษตรกรในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ต้องการขายข้าวกับบริษัท ก็ยินดีรับซื้อเต็มที่

"สมศักดิ์"ถกพาณิชย์เปิดจำนำข้าวเหนียว

     นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกเริ่มสูงขึ้นแล้ว ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศสูงตามไปด้วย ปัจจุบันราคาข้าวเปลือกอยู่ที่เฉลี่ยตันละ 11,000-12,000 บาท เป็นราคาที่เกษตรกรรับได้ เมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 4,000-5,000 บาท

     อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ เป็นห่วงสถานการณ์ราคาข้าวเหนียว เนื่องจากเป็นข้าวที่ไม่ได้ส่งออก ส่วนใหญ่จะใช้บริโภคภายใน ประกอบกับระหว่างนี้ฝนตกหนัก ทำให้ราคาข้าวเหนียวขณะนี้ ถูกกดราคาจากค่าความชื้น เหลือตันละ 5,000-6,000 บาท ก่อนหน้านี้ราคาอยู่ที่เกวียนละ 9,000-10,000 บาท จึงต้องการหารือกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมกันกำหนดราคาขั้นต่ำให้ข้าวเหนียว โดยใช้วิธีเข้ารับจำนำ เพื่อช่วยพยุงราคาให้สูงขึ้น

"มิ่งขวัญ"โชว์ตัวเลขออเดอร์ข้าวพุ่ง

     นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่าขณะนี้มีคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศเข้ามาต่อเนื่อง ล่าสุดมีการติดต่อขอซื้อข้าวเข้ามาถึง 6.7 ล้านตัน ผลจากคำสั่งซื้อจะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น เชื่อว่าราคาข้าวจะไม่ตกต่ำอีกตามที่พ่อค้าคนกลางบางราย หรือโรงสีบางราย ปล่อยข่าวเพื่อต้องการกดราคารับซื้อจากเกษตรกร

     “วันนี้ ถนนทุกสายมุ่งสู่ไทย มีออเดอร์เข้ามาสูงถึง 6.7 ล้านตัน เป็นลูกค้าประจำ ลูกค้าเก่า ยังไม่รวมลูกค้ารายใหม่ๆ ที่ติดต่อเข้ามาอีกเยอะแยะ

     ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ ฮ่องกง ที่ส่งรัฐมนตรีมาพบขอให้ไทยยืนยันว่าจะขายข้าวให้ และไม่เกี่ยงราคา ติมอร์ก็มาขอซื้อข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล แต่ก็บอกให้ไปซื้อกับเอกชน ขณะที่มาเลเซีย ก็มาเจรจาขอซื้อข้าว 5 แสนตัน และต้องการด่วน เป็นต้น”

รัฐพร้อมเข้าแทรกแซงซื้อข้าวแทนโรงสี

     นายมิ่งขวัญกล่าวว่าจากคำสั่งซื้อข้าวที่มีมากมายเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ราคาข้าวเปลือกภายในอยู่ที่เกวียนละ 6,000-7,000 บาท แต่ราคาควรอยู่ที่เกวียนละ 12,000-14,000 บาท หากมีการกดราคามากๆ ก็จะมีมาตรการออกมา โดยกระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปดูแลโดยเข้าไปซื้อข้าวเอง แล้วนำไปขายเองเพราะมีตลาด มีคำสั่งซื้อรออยู่แล้ว ขณะนี้จะขอดูราคาไปก่อน หากไม่ไหว ก็จะเข้าไปทำ

     “ผมรู้สึกไม่ดี อยากให้สงสารชาวนาบ้าง ไม่ใช่จ้องแต่จะกดราคา ปีนี้เป็นปีทองของชาวนา ก็ควรจะให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ ไม่ใช่คิดแต่จะกดราคา พวกกดราคา บทลงโทษตามกฎหมายมันมี แต่ผมจะใช้วิธีลงโทษทางการค้า ถ้ากดราคามากๆ หรือไม่ยอมซื้อ ก็ไม่เป็นไร จะไปซื้อเอง ขายเองก็ได้ มีออเดอร์อยู่แล้ว หรือไม่ถ้าโรงสีในพื้นที่ไม่ยอมซื้อ ก็จะให้โรงสีจากที่อื่นเข้าไปซื้อ ถ้าให้ถึงขั้นนี้ ก็ไม่ต้องทำธุรกิจกัน” นายมิ่งขวัญกล่าว

     สำหรับราคาข้าวเปลือกขณะนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิราคาเฉลี่ย 19,000-20,000 บาท ข้าวขาวความชื้น 14-15% ราคาอยู่ที่ 14,300-14,600 บาท ส่วนข้าวเปลือกเหนียว ราคา 6,500-7,000 บาท จริงๆ ราคาน่าจะอยู่ที่ 8,000 บาท กระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาดูว่า จะมีมาตรการอะไรออกมาให้ความช่วยเหลือข้าวเหนียวอยู่

ค้าภายในออกประกาศค่าความชื้น

     นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เพื่อให้การรับซื้อขายข้าวเปลือกจากชาวนาเป็นธรรม กรมได้ออกประกาศกำหนดการซื้อขายข้าวเปลือกที่มีความชื้น และเป็นข้าวเปลือกที่มีสิ่งเจือปนไม่เกิน 2% ของน้ำหนัก ให้มีการหักลดน้ำหนักข้าวเปลือกในอัตราส่วนต่อ 1,000 กิโลกรัม ดังนี้

ความชื้นไม่เกิน 15% ไม่ให้หักลดน้ำหนัก

     ความชื้น 15-16% หักลดน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม (กก.) ความชื้น 16-17% หักลดไม่เกิน 30 กก. ความชื้น 17-18% หักลดไม่เกิน 45 กก. ความชื้น 18-19 กก.หักลดไม่เกิน 60 กก. ความชื้น 19-20 กก.หักลดไม่เกิน 75 กก.ความชื้น 20-21% หักลดไม่เกิน 90 กก. ความชื้น 21-22% หักลดไม่เกิน 105 กก. ความชื้น 22-23% หักลดไม่เกิน 120 กก.และความชื้นเกิน 23% ขึ้นไป ให้หักลดน้ำหนักในแต่ละเปอร์เซ็นต์ความชื้นได้ไม่เกิน 15 กก. ส่วนข้าวเปลือกจำนวนที่มีปริมาณต่ำหรือสูงกว่าหน่วยที่กำหนดไว้ ให้คิดเทียบหักน้ำหนักตามอัตราส่วน

     นอกจากนี้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดออกตรวจสอบเครื่องวัดความชื้นข้าวและเครื่องชั่งตามโรงสีและท่าข้าวให้มีความถูกต้องและเที่ยงตรงต้องมีคำรับรองจากกรมการค้าภายใน พร้อมเข้มงวดปิดป้ายแสดงราคารับซื้อข้าวเปลือกในแต่ละวัน มีโอกาสตัดสินใจก่อนขายข้าว

"สมัคร"รับปากขายข้าวมาเลเซีย 5 แสนตัน

     พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายมุสตาฟา โมฮัมเหม็ด รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรมาเลเซีย เข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเจรจาซื้อข้าวจากไทยเป็นการด่วน เนื่องจากข้าวในสต็อกของมาเลเซียเหลืออยู่เพียง 15 วัน โดยมาเลเซียต้องการสั่งซื้อข้าวจากไทยจำนวน 5 แสนตัน ทั้งข้าวขาว 5% และข้าวขาว 15%

     ทั้งนี้ นายสมัครระบุว่า ไทยกับมาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน ดังนั้น รัฐบาลไทยจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้ให้อย่างรวดเร็ว โดยไทยจะจัดส่งข้าวล็อตแรกในปริมาณ 1 แสนตัน แต่ไม่เกิน 2.5 แสนตัน ให้มาเลเซียก่อนภายใน 3 วัน ส่วนราคาข้าวที่ไทยจะขายให้กับมาเลเซียนั้นจะเป็นราคาข้าวในท้องตลาด ซึ่งปัจจุบันข้าวขาว 5% ราคาตลาดอยู่ที่ 880 ดอลลาร์ต่อตัน ส่วนข้าวขาว 15% ราคาตลาดอยู่ที่ 850 ดอลลาร์ต่อตัน

     พล.ต.ท.วิเชียรโชติ ระบุว่า นายสมัครสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ ไปประชุมเพื่อหาข้อสรุป ในการขายข้าวล็อตดังกล่าวจะเป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ หรือ “ จีทูจี” ได้หรือไม่ แต่หากดำเนินการไม่ได้ กระทรวงพาณิชย์จะเป็นคนกลางไปเจรจากับภาคเอกชน ให้เป็นผู้ส่งออกข้าวไปให้มาเลเซียแทน พร้อมทั้งจะหาสรุปว่าจะขายข้าวให้มาเลเซียในราคาเท่าไร วิธีการขนส่งเป็นแบบใด และปริมาณข้าวส่งออกเป็นจำนวนเท่าใด

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ