www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

รัฐทุ่มแสนล้านรับจำนำข้าว-"ส่งออก"โวย


นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มี น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบกรอบโครงการรับจำนำข้าวนาปี 2551/2552 โดยตั้งเป้าหมายรับจำนำปริมาณ 8 ล้านตันข้าวเปลือก ราคารับจำนำข้าวขาวเฉลี่ยที่ตันละ 1.4 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิตันละ 1.6 หมื่นบาทและข้าวเหนียวตันละ 9 พันบาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์ราคาข้าว โดยนำราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2551 ที่กำหนดราคาตันละ 1.4 หมื่นบาท และราคาตลาดปัจจุบันเป็นฐานในการกำหนดราคารับจำนำ จึงมั่นใจว่าเป็นราคารับจำนำที่เหมาะสม โดยข้าวนาปีมีจำนวนมากกว่าข้าวนาปรัง แต่เป็นข้าวที่มีคุณภาพดีกว่า

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม กขช.กำหนดจะหารือกันอีกครั้ง ก่อนสรุปรายละเอียดของโครงการรับจำนำทั้งหมด ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องเร่งเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีให้เร็วขึ้น จากเดิมคาดว่าจะเปิดรับจำนำช่วงเดือนพ.ย. แต่เลื่อนให้เร็วขึ้นเป็น 16 ต.ค.-ก.พ.2552 เพราะขณะนี้ผลผลิตข้าวเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว ทั้งนี้ กขช.โดย รมว.พาณิชย์จะนำข้อสรุปจากการประชุมครั้งนี้ เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ (9 ก.ย.) เพื่อให้มีผลทางปฏิบัติทันเวลา

สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวปัจจุบัน ข้าวเปลือกขาว (5%) เฉลี่ยตันละ 1.2-1.25 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิ เฉลี่ยตันละ 1.3-1.4 หมื่นบาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 7.5-7.7 พันบาท

คาดใช้งบประมาณจำนำแสนล้านบาท

แหล่งข่าวจากที่ประชุม กขช.กล่าวว่า ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ผลผลิตข้าวนาปีในปี 2551/2552 ทั้งสิ้น 23 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งชาวนาจะเก็บไว้บริโภคและทำพันธุ์ส่วนหนึ่งเหลือข้าวขายในตลาดประมาณ 15-16 ล้านตัน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการนำข้าวเข้าจำนำ ประมาณ 50% จึงตั้งเป้าหมายรับจำนำที่ 8 ล้านตัน

ทั้งนี้คาดว่าข้าวที่จะเข้าสู่โครงการรับจำนำเป็นข้าวหอมมะลิประมาณ 3 ล้านตัน หรือ 50% ของผลผลิตทั้งหมด 6 ล้านตัน โดยเชื่อว่าชาวนาจะนำข้าวมาจำนำทั้งหมดที่เหลือจากบริโภค เนื่องจากราคาสูงกว่าตลาดมาก ขณะที่ข้าวขาวคาดว่าจะมีการจำนำประมาณ 2 ล้านตันเนื่องจากราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด ส่วนข้าวเหนียวจะเข้าโครงการจำนำมากเหมือนกับข้าวหอมมะลิ คาดว่าประมาณ 3 ล้านตัน เพราะราคาสูงกว่าราคาตลาดมากเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดหากมีการนำข้าวเข้ามาจำนำตามเป้าหมายคาดว่าจะต้องใช้เงินทั้งสิ้น 1.03 แสนล้านบาท

ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการแทรกแซงครั้งนี้ จะใช้วิธีการระบายข้าวในสต็อกซึ่งมีอยู่กว่า 3 ล้านตันภายในระยะเวลา 2 เดือนนี้ คาดว่าจะได้เงินมาทั้งสิ้นประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรับจำนำได้ โดยรัฐบาลอาจตั้งงบประมาณดำเนินการให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวนเล็กน้อย

อย่างไรก็ดีที่ประชุมยังไม่มีการกำหนดให้หน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพหลัก ในการรับจำนำข้าวครั้งนี้ โดยต้องรอรับฟังความเห็นจาก นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในการประชุม ครม.วันนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งอาจเห็นชอบให้โอนโครงการรับจำนำข้าวรอบนี้กลับมาให้กระทรวงพาณิชย์อีกครั้งก็ได้

เร่งระบายข้าวเคลียร์สต็อกหาเงินจำนำ

นายไชยา กล่าวอีกว่า แนวทางการหาสถานที่เก็บข้าว ที่ได้จากโครงการรับจำนำ จะเน้นการระบายข้าวเก่าในสต็อกที่มีอยู่ 2.1 ล้านตันข้าวสาร เป็นข้าวตั้งแต่ปีการผลิต 2547-2550 และข้าวจากโครงการรับจำนำนาปรังฯ ประมาณ 1.5-1.6 ล้านตันข้าวสาร รวม 3.6 ล้านตันข้าวสาร โดยแนวทางการระบายข้าวจะดำเนินการผ่านรูปแบบรัฐต่อรัฐ ทั้งนี้จะไม่เป็นการเร่งระบาย เพื่อแข่งกับผู้ส่งออกเอกชน และมั่นใจว่าการระบายข้าว จะไม่กระทบต่อราคาตลาดในประเทศเพราะเป็นการระบายออกสู่ต่างประเทศ และการระบายผ่านจีทูจี จะกำหนดราคาขั้นต่ำที่ไม่กดดันให้ราคาตลาดลดต่ำลงอีก

นายไชยา กล่าวอีกว่า เบื้องต้นรัฐมีคำสั่งซื้อข้าวผ่านจีทูจีแล้วจำนวนหนึ่ง และกำหนดจะระบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีข้าวเหลือในสต็อกไม่มากและสามารถมีพื้นที่รองรับข้าว จากโครงการรับจำเพิ่มเข้ามา

นอกจากนี้ที่ประชุมได้อนุมัติให้ข้าวข้าวราคาถูกให้กองทัพบก ปริมาณ 1.3 พันตัน และเห็นชอบตามข้อเสนอคณะกรรมการข้าวครบวงจรเสนอมาตรการรับจำนำนาปรัง เพิ่มอีก 1 ล้านตัน และขยายเวลารับจำนำจากเดิมหมด 30 ส.ค.นี้ เป็น 30 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่ได้หารือถึงการปลดโรงสีที่ถูกขึ้นบัญชีดำ (แบล็คลิสต์)

”ที่ประชุมคุยกันอย่างรอบคอบว่า ราคาข้าวนาปี ควรกำหนดราคารับจำนำเท่าใด ดูจากราคาตลาดโลก และดูว่าสต็อกที่มีอยู่ เป็นข้าวเก่าตั้งแต่ปี 2547-2550 เมื่อจำหน่ายผ่านจีทูจีแล้ว ก็จะมีช่องเหลือรองรับข้าวใหม่ได้ การกำหนดราคาเพื่อให้เป็นราคาไม่ตกต่ำ เชื่อว่าไม่เกี่ยวกับราคาในประเทศเพราะเราเน้นขายตลาดต่างประเทศ” นายไชยา กล่าว

ผู้ส่งออกซัดตั้งราคาสูงปีหน้าส่งออกยาก

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การกำหนดราคารับจำนำข้าวเปลือกขาวที่ตันละ 1.4 หมื่นบาทจะทำให้ราคาข้าวส่งออก (เอฟโอบี) อยู่ในระดับตันละ 750 ดอลลาร์ ทั้งที่คู่แข่งของไทยอย่างเวียดนามราคาข้าวขาวเฉลี่ยที่ ตันละ 550 ดอลลาร์ ทำให้การส่งออกข้าวปีหน้าจะเป็นไปอย่างลำบากหรือส่งออกปริมาณรวมลดลง โดยคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านตัน

ทั้งนี้ เชื่อว่าข้าวส่วนใหญ่ในตลาดจะทะลักเข้าสู่สต็อกของรัฐบาล เพราะการรับจำนำมีราคาสูงกว่าตลาดมาก คาดว่ารัฐจะมีสต็อกข้าวประมาณ 7-8 ล้านตัน ซึ่งจะส่งสัญญาณให้ตลาดรับรู้ว่าไทยมีข้าวอยู่มาก ทำให้ไม่จำเป็นต้องแย่งซื้อข้าว ส่งผลให้ราคามีแนวโน้มลดต่ำลง โดยแนวทางแก้ปัญหาขณะนี้รัฐควรเร่งระบายข้าวในสต็อกออกสู่ตลาดเพื่อให้สต็อกไม่แน่นจนเกินไป

นายชูเกียรติ กล่าวว่า ราคารับจำนำที่เหมาะสม ควรอยู่ในระดับตันละ 1.2 หมื่นบาท เพราะต้นทุนชาวนาเฉลี่ยไร่ละ 6-7 พันบาท การขายข้าวในราคาดังกล่าวจะทำให้ชาวนามีกำไรที่เหมาะสม และไม่เป็นการบิดเบือนกลไกตลาดจนเกินไป

ทั้งนี้ รู้สึกเป็นห่วงที่รัฐบาลนำเรื่องข้าวทั้งหมดให้คณะกรรมการข้าวครบวงจร ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆ ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องข้าวมาทำงาน ทำให้ภาพรวมสถานการณ์ข้าวไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างที่ควรจะเป็น

ชาวนาพอใจราคาใหม่แม้ต่ำกว่าที่ร้องขอ

นายประสิทธิ์ บุญเฉย รักษาการนายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า สมาคมพอใจกับราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปี แม้จะต่ำกว่าราคาที่สมาคมร้องขอคือ ต้องการให้ข้าวเปลือกหอมมะลิราคาตันละ 18,000 บาท และราคาข้าวเปลือกเจ้า 15,000 บาท โดยเป็นการจำนำแบบใบประทวน แต่หากเป็นการจำนำแบบยุ้งฉาง เกษตรกรจะได้เงินเพิ่มอีก 1,000 บาท เพราะรัฐบาลกำหนดราคาจำนำแบบยุ้งฉาง สำหรับข้าวหอมมะลิที่ตันละ 17,000 บาท

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สมาคมเป็นห่วงขณะนี้ คือ สต็อกข้าวรัฐบาลที่ยังไม่มีการระบายออกไป โดยเฉพาะข้าวเปลือกนาปรังที่รัฐบาลรับจำนำเพิ่มเข้ามาอีก 1.5 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ซึ่งรัฐบาลต้องรีบระบายออกโดยเร็วที่สุด

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2008 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.