นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ได้ทำหนังสือไปถึงเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) หลังตั้งกรรมการ 2 ชุดดังกล่าว จะสามารถอนุมัติให้เดินหน้าโครงการและอนุมัติงบประมาณรับจำนำข้าวเปลือกปี 2551/2552 ได้ภายในวันที่ 1 พ.ย.นี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย 8 ล้านตันข้าวเปลือก
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังจะเร่งรัดให้ที่ประชุมกขช.พิจารณา ปลดบัญชีดำกลุ่มโรงสี ที่มีปัญหาเล็กน้อย กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อเตรียมจำนวนโรงสีให้พร้อมรับจำนำ
ส่วนราคารับจำนำนั้น รมว.พาณิชย์ยืนยันรับจำนำในราคาเดิม โดยข้าวเปลือกเหนียวที่ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้าที่ตันละ 14,000 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิที่ตันละ 16,000 บาท เพื่อต้องการพยุงราคาข้าวในประเทศไม่ให้ตกต่ำ แม้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะอ้างว่าไม่มีเงินในการรับจำนำก็ตาม
“การรับจำนำต้องดูผลกระทบต่อราคาข้าวในประเทศ และรายได้ของชาวนาต้องทำให้มีกำไรพอสมควร ไม่เกี่ยวกับว่า จำนำแล้วรัฐจะได้กำไรหรือขาดทุน อย่าเอาปัญหาของตัวเอง มาเกี่ยวข้องกับโครงการของรัฐ เพราะไม่ได้ใช้เงินทั้งหมดในคราวเดียว แต่เป็นการทยอยใช้ สุดท้ายรัฐต้องหาเงินมาใช้ให้โครงการจนได้” นายยรรยง กล่าว
ส่วนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่จะให้โรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำว่า ขณะนี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ออกประกาศเชิญชวนให้โรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำแล้ว โดยกำหนดให้โรงสีที่จะเข้าร่วมโครงการสามารถรับฝากเก็บข้าวได้ไม่เกิน 50 เท่าของกำลังการผลิตในแต่ละวัน ต้องจัดทำหนังสือค้ำประกันธนาคารให้อคส..ในอัตรา 40%ของมูลค่าข้าวเปลือกที่รับจำนำ โดยไม่ต้องมีสต๊อกข้าว ต้องแยกกองข้าวเปลือกที่โรงสีรับซื้อตามการค้าปกติ กับกองข้าวเปลือกที่รับฝากออกจากกันให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ปลอมปนกัน และนำข้าวของตนเองมาสวมสิทธิ์เข้าโครงการรับจำนำ
นอกจากนี้ ยังห้ามผู้เข้าร่วมโครงการเปิดจุดรับฝากจำนำนอกพื้นที่ ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการรับฝากข้าวเปลือกจากเกษตรกรก่อนแล้วเจ้าหน้าที่อคส.ออกใบประทวนให้ภายหลัง ไม่เช่นนั้นให้ถือว่าข้าวดังกล่าว ไม่ใช่ข้าวที่รับจำนำของรัฐบาล รวมถึงยังห้ามโรงสีรับจำนำข้ามเขตโดยเด็ดขาด เช่น ไม่อนุญาตให้โรงสีในพื้นที่ภาคกลาง ที่รับจำนำข้าวเจ้าเข้าไปรับจำนำข้าวหอมมะลิในพื้นที่ภาคเหนือ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อป้องกันปัญหาการปลอมปนฟันกำไรส่วนต่างที่ราคาห่างกัน 2 พันบาทต่อตัน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |