นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับมอบหมายจากนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้กำกับดูแลงานกรมการค้าต่างประเทศ ตนมองว่าเรื่องสำคัญในขณะนี้ คือ การดูแลการค้าข้าว ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนจะเข้าพบเพื่อหารือกับนายมิ่งขวัญ โดยจะเสนอให้มีการระบายข้าวสารที่อยู่ในสต็อกรัฐบาลออกสู่ตลาด เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะปริมาณข้าวตึงตัว เพราะก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ส่งออกข้าวได้เข้าพบตนและแจ้งว่ากำลังได้รับความเดือดร้อนไม่มีข้าวส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งตนจะเสนอขอให้นายมิ่งขวัญ อนุมัติให้มีการเร่งระบายข้าวออกสู่ตลาดโดยเร็ว เพราะอีก 2 เดือนข้างหน้า ผลผลิตข้าวนาปีจำนวนมากจะทยอยออกสู่ตลาด ดังนั้นรัฐต้องฉวยโอกาสช่วงนี้ระบายข้าวเก่าในสต็อก ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 2.2 ล้านตัน ออกมาสู่ตลาดบางส่วน เพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกมีข้าวส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นช่วงที่คาดว่ารัฐจะยังขายได้ราคาดีอยู่เพราะความต้องการข้าวโลกยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยจะนำข้าวเก่าที่คุณภาพไม่ค่อยดีออกมาจำหน่ายก่อน

     "เบื้องต้นจะนำข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสารก่อนหน้านื้ที่เคยมีมติให้ระบายข้าวจำนวน 7 แสนตันมาพิจารณา ซึ่งถ้านายมิ่งขวัญ อนุมัติก็จะนำออกมาขายเลยโดยอาจจะระบายก่อนเบื้องต้น 7 แสนตัน แต่จะแบ่งขายเป็นงวดประมาณ 2-3 งวด และบางส่วนจะต้องเก็บไว้เพื่อสำรองการใช้ภายในประเทศ" นายวิรุฬ กล่าว

     นายวิรุฬ กล่าวต่อถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวของไทยในปี 2551 ว่า คาดว่าไทยจะส่งออกได้ปริมาณรวม 10 ล้านตัน และจะได้ราคาดี เนื่องจากผลผลิตข้าวโลกขาดแคลน ส่วนปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าจะไม่กระทบต่อการส่งออกข้าว เพราะตลาดขณะนี้เป็นของผู้ขาย ส่วนนโยบายการทำการค้าต่างตอบแทนระหว่างข้าวกับสินค้าของประเทศอื่นๆ ตนคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำในขณะนี้เพราะมาตรการดังกล่าวจะนำมาใช้แก้ไขปัญหาช่วงที่ประเทศมีผลผลิตข้าวล้นตลาด และจำเป็นต้องเร่งระบายออกเท่านั้น แต่ปัจจุบันผลผลิตข้าวมีไม่เพียงพอความต้องการ และไม่พอจำหน่าย

ที่มา แนวหน้า