เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2551 ได้มีการประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยมีนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณารายละเอียดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง

     นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ในวันที่ 10 มิถุนายน จะนำเสนอรายละเอียดโครงการให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเพื่อรับผิดชอบภาระความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำ โดยจะจัดสรรงบประมาณให้ ธ.ก.ส.ตามที่เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ยังขออนุมัติเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายดำเนินการ วงเงิน 216 บาทต่อตัน คาดว่าเบื้องต้นคาดว่าจะมีเกษตรกรนำข้าวมาจำนำประมาณ 2.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะมาจำนำ 2 ล้านตัน โดยราคาจำนำอยู่ที่ 14,000 บาทต่อตัน คาดว่าจะใช้วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท

     "ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นรัฐบาลจะชดใช้ ธ.ก.ส.ในอัตราความเสียหายจริงพร้อมดอกเบี้ย เอ็มอาร์อาร์ ลบหนึ่ง หรือเท่ากับ 6.5% แต่หากชาวนามาไถ่ถอน จะคิดดอกเบี้ยจากชาวนาอัตราดอกเบี้ยเพียง 3% เพื่อบรรเทาภาระชาวนา ความเสียหายที่จะเกิดกับ ธ.ก.ส. ยังไม่สามารถประเมินได้ขณะนี้ ต้องรอกระบวนการเสร็จสิ้น หรือหลัง 30 ธันวาคม 2551 ก่อน"

     นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า จะมีการป้องกันการทุจริต เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้ง ธ.ก.ส.จะขึ้นทะเบียนเกษตรกรทำนาปรัง เพื่อให้รับทราบจำนวนข้าวเข้าโครงการ การขึ้นทะเบียนโรงสีและบริษัทสำรวจหรือเซอร์เวเยอร์ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบข้าว โดย ธ.ก.ส.จะเป็นผู้เข้าไปคัดเลือกเอง และขั้นตอนการออกใบประทวนที่องค์การคลังสินค้าหรือ อคส.จะเป็นผู้ออก จะต้องมีเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.ทำควบคุมคู่กับเจ้าหน้าที่ อคส.ด้วย เพื่อตรวจสอบว่าจำนวนข้าวตรงกัน รวมถึงติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดหรือซีซีทีวีที่โกดัง และใส่ชิปในกระสอบบางส่วน เพื่อทำให้ตรวจสอบได้

     นายธีระพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.ก.ส กล่าวว่า การรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง จะกำหนดวงเงินที่ต้องใช้เพิ่มจากวงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มมาเป็น 3.5 หมื่นล้านบาท ไม่มีผลกระทบใดกับธนาคาร เพราะได้ระดมเงินฝากรองรับไว้ รวมทั้งมีวงเงินบางส่วนสำรองไว้ใช้เพียงพอแล้ว ส่วนปัญหาการทุจริตจะมีการเข้มงวดโดยแยกโกดังและกองข้าวให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ

     นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ตลาดซื้อขายทั้งในประเทศและส่งออกไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจนกว่าโครงการรับจำนำจะเริ่มขึ้นจริง ในแง่ส่งออกคงต้องรอดูในประเด็นรัฐจะนำข้าวที่รับจำนำไปส่งออก เพราะราคารับจำนำที่ตันละ 1.4 หมื่นบาทนั้น สูงเกินไปกว่าการเจรจาซื้อขายในปกติ

     "กำลังรอดูการซื้อข้าวของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่กำหนดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 6 แสนตันในสัปดาห์หน้า ว่ารัฐบาลไทยจะดำเนินการอย่างไร ขณะนี้รัฐบาลเวียดนามได้เสนอขายในราคาตันละ 700 เหรียญสหรัฐ แต่ราคาข้าวของไทยอยู่ที่ 850 เหรียญสหรัฐ" นายชูเกียรติกล่าว

ั้ที่มา มติชน