www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ผู้ส่งออกแฉข้าวแพง ชี้เหตุกักตุนเก็งกำไร


     นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในอีก 2 สัปดาห์หน้า ทาง สมาคมฯจะเข้าพบ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เพื่อนำปัญหาเรื่องข้าวที่มีราคาสูงกว่าปกติอย่างรวดเร็ว และสูงเป็นประวัติการณ์ เข้าหารือ เพราะแม้ว่าราคาข้าวที่สูงนั้นจะส่งผลดีต่อเกษตรกรผู้ปลูกที่จะขายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้น แต่ราคาดังกล่าวไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกในไตรมาส 2 ที่จะลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะลูกค้าไม่กล้าซื้อข้าว ผู้ส่งออกก็ไม่กล้าขาย เนื่องจากราคาข้าวเคลื่อนไหวเร็วมาก

     "จากราคาข้าวที่ผันผวน และไม่มีเสถียรภาพในปัจจุบัน ทำให้ผู้ส่งออกเกรงว่าในไตรมาส 2 จะส่งออกข้าวได้ลดลง ซึ่งสิ่งที่จะตามมาคือราคาข้าวในประเทศจะร่วงลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจะได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับ รมว.พาณิชย์ คนใหม่ ว่า ทำอย่างไรจะทำให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่" นายชูเกียรติ กล่าว

     นอกจากนี้ยังจะหารือเกี่ยวกับเรื่องการหาตลาดส่งออกข้าว หรือการขยายตลาดส่งออกข้าวใหม่เพิ่มมากขึ้น และปัญหาการกักตุนข้าวเพื่อเก็งกำไรของผู้ผลิตข้าว ซึ่งส่งผลให้ผู้ส่งออกข้าวไม่สามารถซื้อข้าวเพื่อนำไปส่งออกให้กับต่างประเทศได้ ทั้งๆที่เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยว ซึ่งปัญหาดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ ต้องเข้ามาดูแลเพื่อไม่ให้ประชาชนซื้อข้าวแพง โดยภาครัฐอาจนำเอาข้าวในสต๊อกรัฐบาลมาขายเพื่อลดความร้อนแรงในตลาดลง

     อย่างไรก็ตามพบว่า ขณะนี้ได้มีบุคคลอาชีพอื่นที่ไม่เกี่ยวกับข้าว ทำการซื้อข้าวเปลือกกักตุนไว้ขายเก็งกำไรด้วย ขณะที่ผู้ส่งออกบางรายก็ไม่มีข้าวส่งให้กับต่างประเทศ และยินยอมชดเชยเป็นเงินแทนข้าวยอมที่จะขาดทุนเกือบ 100 เหรียญสหรัฐ ทั้งข้าวขาว และข้าว นึ่ง

     ด้านนายพิสุทธิ์ ชลากรกุล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า(อคส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาข้าวในภาพรวมดีมาก โดยราคาข้าวขาวเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 11,000 บาท เป็นราคาที่สูงกว่าราคารับจำนำ ส่งผลให้มีข้าวที่รับจำนำในฤดูข้าวนาปี ปี 2550/2551 ที่เริ่มรับจำนำตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 จนถึงขณะนี้มีปริมาณน้อยมากเพียง 50,000 ตัน ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับการรับจำนำในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสูงถึง 1.1 ล้านตัน ดังนั้นโครงการรับจำนำเพื่อแทรกแซงราคา จึงมีความจำเป็นน้อยมากเพราะกลไกตลาดทำงานได้ดี และถ้าไม่มีโครงการรับจำนำจะตัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นลงได้

     นายพิสุทธิ์ ระบุว่า สำหรับสต็อกข้าวรัฐบาลขณะนี้มีอยู่ 1.9 ล้านตัน มีทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวขาว โดยหลังคณะกรรมการระบายข้าวสารเสนอขายข้าว 5 แสนตันได้ไม่ทันรัฐบาลชุดที่ผ่านมา จึงจะเสนอต่อนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ คนใหม่ ซึ่งคิดว่าการเปิดประมูลช่วงนี้น่าจะเหมาะสมเพราะยังมีความต้องการซื้อข้าวจากต่างประเทศ เช่น บังคลาเทศ ปากีสถาน และช่วงนี้เวียดนามและอินเดียยังไม่ส่งออกข้าวเพราะผลผลิตยังไม่ออก ขณะที่ข้าวนาปรังกำลังจะออกผลผลิตในปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเร็วกว่าปกติเนื่องจากมีปริมาณน้ำมากเพียงพอ คาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังจะมีออกมาราว 3 ล้านตัน อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลตัดสินใจเปิดโครงการรับจำนำก็ต้องตัดสินใจว่านโยบายดูแลข้าวนาปรังจะเป็นอย่างไร และกำหนดราคารับจำนำเท่าไร

     "ปีที่ผ่านมาประมูลขายข้าวจากโครงการรับจำนำได้ 2.6 ล้านตัน มูลค่า 26,000 ล้านบาท ส่วนปัญหายักยอกข้าวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหาแล้ว เพราะ อคส.ได้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ อคส.ในฐานะที่ดูแลข้าวในสต็อกรัฐบาลจะเสนอ รมว.พาณิชย์ คนใหม่ ว่า ควรปล่อยให้กลไกตลาดทำงาน ให้มีโครงการแทรกแซงราคาข้าวน้อยที่สุด และไม่ควรทำโครงการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) เพราะการแข่งขันที่เป็นธรรมจะทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุด" นายพิสุทธิ์ กล่าว

ที่มา แนวหน้า

 


©
The Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.