นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ ( 11 มี.ค.) ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ทั้ง 6 ทีม นำคณะที่ประกอบด้วยพาณิชย์จังหวัด การค้าภายในจังหวัด องค์การคลังสินค้า (อคส.) ตรวจสต็อกข้าวในโกดังของรัฐที่มีอยู่ประมาณ 2.1 ล้านตันทั่วประเทศ ว่า ยังมีปริมาณตรงจำนวนอยู่หรือไม่ กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 7 วัน เมื่อตรวจสอบเสร็จสิ้นในวันที่ 17 มี.ค.แล้ว หลังจากนั้นจะแถลงสรุปข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ การตรวจสอบจะดูทั้งปริมาณข้าวและคุณภาพ ว่า เป็นไปตามที่ระบุในข้อมูลที่มีอยู่หรือไม่ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินทางวินัย และเอาผิดทางกฎหมายเต็มที่ สาเหตุที่ต้องตรวจสอบสต็อกข้าวขณะนี้ เนื่องจากราคาข้าวมีความผันผวนและมีแนวโน้มที่ราคาสูง
"ราคาข้าวปรับเพิ่มขึ้นมากพ่อค้าก็ต้องการส่งออก แต่ข้าวในสต็อกของรัฐต้องมีอยู่ หากพบบกพร่อง หล่นหายไป จะเอาผิดอย่างไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้อยากรู้สถานการณ์ข้าวทั้งหมด หากจะดำเนินการอะไรจะได้ถูกต้อง แต่รับรองว่าจะมีข่าวดีแน่นอน" นายมิ่งขวัญกล่าว
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ยังไม่มีแผนจะเปิดรับจำนำข้าวนาปรัง เนื่องจากขณะนี้ ราคาข้าวสูงมาก หากมีข้อเสนอการเปิดรับจำนำข้าวจากผู้เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการพิจารณาทันที เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชาวนาทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน กำลังพิจารณาหาช่องทางบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ราคาข้าวสูงขณะนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไร
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่าสถานการณ์ข้าวที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดการทุจริตนำข้าวในสต็อกของรัฐไปขายในท้องตลาด การตรวจสอบสต็อกข้าวต้องดูทั้งปริมาณและชนิดของข้าวที่ต้องเป็นไปตามที่ระบุในข้อมูลของกระทรวง
นายปราโมท วานิชชานนท์ ประธานที่ปรึกษาสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลจะตรวจสต็อกข้าวที่มีอยู่ เพื่อให้มีข้อมูลที่ชัดเจนก่อนบริหารสต็อกข้าวในช่วงที่เกิดวิกฤติราคาขณะนี้ ต้องการให้รัฐตรวจสอบสต็อกข้าวในมือเอกชนทั้งในส่วนโรงสี และผู้ส่งออกว่ามีข้าวในระบบทั้งหมดอยู่เท่าใด เพราะวิกฤติราคาข้าวที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นจะมีระยะเวลายาวไปถึงสิ้นปีนี้ หรือจนกว่าผลผลิตใหม่จะออกในช่วงเดือนพ.ย.นี้
ส่วนการทุจริตลักลอบข้าวในสต็อกของรัฐช่วงที่ราคาข้าวสูง ว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับราคาที่สูงขึ้น เพราะแม้แต่ในช่วงที่ราคาข้าวไม่สูงก็ยังเกิดการทุจริต ดังนั้น การตรวจสอบสต็อกของรัฐอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ควรกระทำอยู่แล้ว ส่วนผลกระทบราคาข้าวที่สูงขึ้น ตนเชื่อว่ารัฐสามารถนำสต็อกข้าวที่มีอยู่ 1.3 ล้านตัน มาผลิตข้าวถุงราคาถูกขายให้ประชาชนได้
อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวในประเทศได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในทุกตลาด เนื่องจากความต้องการข้าวเพื่อส่งออกต่างประเทศของผู้ส่งออกยังมีอยู่ต่อเนื่อง แต่การตกลงซื้อขายกลับมีปริมาณน้อย เนื่องจากสินค้ามีไม่มาก ประกอบกับโรงสีชะลอการจำหน่าย เนื่องจากยังมีภาระส่งมอบให้กับผู้ซื้อล่วงหน้า ขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกต่างรอดูสถานการณ์ผลผลิตข้าวนาปรัง ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงเดือนนี้ โดยราคาที่เกษตรกรขายได้ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 13,000 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 9,000 บาท ราคาข้าวได้ปรับตัวสูงขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30-70%
ในส่วนของประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนาม ขณะนี้ กระทรวงเกษตรและอาหารกำลังพิจารณาที่จะนำมาตรการเก็บภาษีส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่บาสมาติ มาใช้เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลจะพิจารณาข้อเสนอที่ให้มีการปรับเพิ่มราคาส่งออกขั้นต่ำ ปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 500 ดอลลาร์ต่อตัน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|