นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มี ดร.โอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันที่ 13 ต.ค.นี้ ตนจะเสนอให้ ดร.โอฬาร รับเป็นประธานดูแลการขายข้าวไปต่างประเทศ โดยให้จัดคณะโรดโชว์การขายข้าวไปต่างประเทศทั้งหมด เพื่อสร้างความต้องการบริโภคข้าวไทย ส่วนตนจะดูแลข้าวในประเทศทั้งหมด
พร้อมกันนี้ จะขออนุมัติในหลักการให้ กขช. พิจารณาระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลทั้งหมดไปต่างประเทศ แบ่งเป็นข้าวสาร 2.1 ล้านตัน และข้าวเปลือกจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 อีกประมาณ 3.96 ล้านตัน
ขณะเดียวกัน จะแจ้งให้ กขช.ทราบว่า กระทรวงพาณิชย์จะตั้งชุดเฉพาะกิจ 10 ชุด เพื่อตรวจสอบข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 หลังจากที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง มาให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลทั้งหมดในวันที่ 14 ต.ค.นี้ ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 10 วัน โดยหากเห็นว่ามีการปลอมปน หรือไม่ตรงปริมาณที่รับจำนำไว้ก็จะไม่รับมอบ
“ได้ข่าวว่า ข้าวที่รับจำนำโดยองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร มีข้าวเหนียวปลอมปนกับข้าวเจ้าอยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งคุณภาพไม่ตรงกับที่จำนำไว้ เพราะเรารับจำนำข้าวเจ้าอย่างเดียว ซึ่งจะไม่รับมอบ โดย อ.ต.ก.ต้องรับผิดชอบตรวจสอบว่า ใครบกพร่อง เพราะการรับจำนำข้าว ต้องมีทั้งบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (บริษัทเซอร์เวย์) เจ้าของโรงสีเจ้าหน้าที่คลังสินค้าควบคุมดูแลอยู่แล้ว” นายไชยา กล่าว
ส่วนการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2551/2552 นั้น กระทรวงพาณิชย์ยังยืนยันรับจำนำข้าวเปลือกเหนียวที่ตันละ 9,000-10,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 14,000 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 16,000 บาท เป้าหมาย 8 ล้านตัน เริ่มรับจำนำวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งหากลดราคาจำนำเหลือตันละ 12,000 บาท เท่ากับการรับจำนำข้าวนาปรังตันละ 14,000 บาทล้มเหลว ขาดทุน 8,000 ล้านบาททันที จากการจำนำข้าว 4 ล้านตัน
ส่วนเรื่องเงินรับจำนำข้าวเปลือกนาปีนั้น จะต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ที่จะประชุมวันที่ 14 ต.ค. นี้เป็นผู้อนุมัติ แต่ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากกระทรวงการคลังแล้วว่า ได้เตรียมเงินได้แล้วประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่เพียงพอ เพราะคาดจะใช้ประมาณ 100,000 ล้านบาท ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์จึงต้องเร่งระบายข้าวไปต่างประเทศ เพื่อเตรียมเงินเปิดรับจำนำ ซึ่งหากระบายข้าวในสต็อกรัฐได้ทั้งหมด หรือประมาณ 4 ล้านตันข้าวสาร ในราคาเฉลี่ยทั้งข้าวเก่าและใหม่ ที่ตันละ 16,000 บาทก็จะได้เงินเกือบแสนล้านบาท ซึ่งเพียงพอสำหรับรับจำนำ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |