www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

"พงษ์ลาภ"หวั่นไทยวืดข้าวอิหร่าน ชี้เอกชนติดปัญหา L/C จี้พาณิชย์เจรจาขาย G to G

     ปัญหาราคาข้าวในประเทศลดลง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากราคาข้าวตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมาขยับสูงกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐ ทำให้ประเทศผู้ซื้อชะลอสั่งซื้อข้าวจากไทย อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์ยังยืนยันว่า ประเทศผู้ซื้อข้าวรายสำคัญอีกหลายประเทศโดยเฉพาะอิหร่านที่สั่งซื้อข้าวปีละเกือบ 1 ล้านตัน ยังไม่ได้สั่งซื้อข้าว

     นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีนี้หน่วยงานจัดซื้อข้าวของรัฐบาลอิหร่าน หรือ GTC ซึ่งปกติจะซื้อข้าวผ่านกรมการค้าต่างประเทศในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ได้เปลี่ยนเงื่อนไขการจัดซื้อข้าวโดยภาคเอกชน คล้ายกับระบบการจัดซื้อของฟิลิปปินส์ ซึ่งเปิดประมูลใบอนุญาตในการจัดซื้อข้าว แต่ขณะนี้ทางอิหร่านยัง ไม่ได้ออร์เดอร์ข้าวกับไทย กรมคาดว่าจะ มีความเคลื่อนไหวในช่วงกลางปีนี้ ทั้งนี้ ปกติอิหร่านจะซื้อข้าวในปริมาณ 9 แสน-1 ล้านตันต่อปี

     ด้านนายสมพงษ์ กิติเรียงลาภ ประธานบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวไปอิหร่าน ให้ความเห็นว่า ทางกรมการค้าต่างประเทศควรจะเป็นผู้ออกหน้าขายข้าวให้กับรัฐบาลอิหร่านในรูปแบบจีทูจีเหมือนเดิม เพราะขณะนี้การขายสินค้าให้กับอิหร่านมีปัญหาจากกรณีที่ธนาคารไม่เปิด L/C ให้ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองระหว่าง ประเทศที่อิหร่านมีปัญหาขัดแย้งกับสหรัฐถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับธนาคาร จึงทำให้ผู้ ส่งออกไม่สามารถค้าขายกับอิหร่านโดยตรง ได้ ต้องผ่านการเปิด L/C กับประเทศที่สาม ซึ่งทำให้เสียค่าธรรมเนียมมากขึ้นอีก

     ล่าสุดหน่วยงานด้านทหารของรัฐบาลอิหร่าน (เอ็กก้า) ได้ติดต่อสั่งซื้อข้าวขาว 100% ชั้น 2 กับพงษ์ลาภ ในปริมาณ 30,000 ตัน ด้วยราคาสูงถึง 1,070 เหรียญสหรัฐต่อตัน แต่มีปัญหาที่ธนาคารไม่ยอมเปิด L/C ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือกันอยู่ในขณะนี้ จึงไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้ได้ ดังนั้นหากรัฐบาลเข้ามาเป็นผู้ประสานให้แล้วจึงจัดสรรให้ผู้ส่งออกที่มีประวัติการส่งออกไปอิหร่าน ซึ่งจะมีความสามารถในปรังปรุงคุณภาพข้าวส่งมอบอิหร่านได้ เพราะลักษณะข้าวของอิหร่านจะมีความพิเศษ

     นอกจากต้องการให้รัฐบาลเป็นผู้เจรจารับออร์เดอร์จากอิหร่านแล้ว เอกชนยังต้องการให้รัฐบาลเจรจากับรัฐบาลอิหร่านเพื่อขอให้รัฐบาลอิหร่านคงสเป็กข้าวที่จะ ส่งมอบในระดับที่ไทยสามารถทำได้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องสัดส่วนปริมาณการสูญเสียจาก 0.65% เป็น 1.50% ซึ่งถือว่าเข้มงวดเกินความจำเป็น และยังถูกหักเงินจากปริมาณการสูญเสียด้วย ส่งผลกระทบต่อการส่งออกด้วย

     "อิหร่านต้องการข้าวที่มีสเป็กสูงเกินไปทำให้ปรับปรุงคุณภาพได้ยาก ในประเทศผู้ส่งออกอื่นๆ ทั้งเวียดนามก็ไม่มีใครทำได้ ทำให้อิหร่านไม่สามารถหาซื้อข้าวคุณภาพนี้ได้จากประเทศผู้ส่งออกอื่น ดังนั้นในเร็วๆ นี้คาดว่าอิหร่านคงจะเข้ามาสั่งซื้อข้าวจากไทย อย่างต่ำที่สุดคงประมาณ 4 แสนตัน" นายสมพงษ์กล่าว

     ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศระบุว่า ในปี 2550 ไทยส่งออกข้าวไปอิหร่านปริมาณ 615,904 ตัน เพิ่มจากปี 2549 ซึ่งมีการส่งออก 650,697 ตัน คิดเป็น 6.44% แต่การส่งออกไปอิหร่านในช่วง 3 แรก (มกราคม-มีนาคม) ของปี 2551 ปรับลดลงถึง 49.14% โดยปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 72,402 ตัน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการส่งออกถึง 142,369.64 ตัน ทั้งนี้ปี 2550 อิหร่านเป็นตลาดข้าวในตะวันออกกลางที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดประมาณ 7.27% ตามด้วยอิรัก 1.43% แต่ปีนี้สัดส่วนการ ส่งออกไปตลาดอิหร่านลดลงเหลือ 2.26% แต่อิรักเพิ่มขึ้นเป็น 4.13%

์ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2008 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.