นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมกรมการข้าว ว่า ในวันนี้ ( 13 มี.ค.) ตนจะนำผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ไปหารือกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อวางแผนร่วมกันในการผลิตและผลักดันส่งออกสินค้าเกษตร ทั้งนี้แม้ว่าปัจจุบันสินค้าเกษตรในภาพรวมจะมีราคาสูงขึ้นในระดับที่เกษตรพอใจ แต่ราคาดังกล่าวไม่มีความแน่นอน เมื่อความต้องการของโลกลดลง สถานการณ์ธรรมชาติเข้าสู่ภาวะปกติ ราคาสินค้าเกษตรจะตกต่ำลงได้ ดังนั้นกระทรวงเกษตรจะต้องวางแผนการผลิตให้ชัดเจนสอดคล้อง กับความต้องการของตลาด
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของสินค้าข้าวถือเป็นสินค้าที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด เนื่องจากเป็นอาชีพหลักของเกษตรกรไทยปัจจุบันราคาข้าวอยู่ในระดับที่ดีมาก ข้าวสดสูงถึงตันละ 8,000 บาท ซึ่งอานิสงส์จากที่ข้าวของเวียดนามและอินเดีย ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยธรรมชาติ ดังนั้นหากวิเคราะห์จากข้อมูลที่ได้รับ แสดงให้เห็นว่าราคาข้าวของไทย ยังไม่มีเสถียรภาพและไม่มีความยั่งยืน
ขณะที่ต้นทุนการผลิตข้าวปัจจุบันได้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งปุ๋ยและราคาน้ำมัน ซึ่งไม่มีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงได้ในอนาคต ต่างกับราคาข้าวของไทยที่ยังมีความเสี่ยงจากการผันผวนของราคา หากเกิดภาวะล้นตลาด ราคาข้าวของไทยจะมีปัญหาแน่
ทั้งนี้เพื่อเตรียมการรองรับปัญหาดังกล่าว กระทรวงเกษตรฯ มีแผนจะจับมือเป็นพันธมิตรทางด้านการค้าแบบไตรภาคี ร่วมกันระหว่างไทย เวียดนาม และบังกลาเทศ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับราคาข้าว และดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางข้าวของโลก แต่ทั้งนี้ข้าวของไทยจะต้องมีคุณภาพที่เหนือกว่า ทั้งในแง่คุณภาพสามารถยึดครองตลาดระดับบน ในขณะที่ตลาดระดับกลางและระดับล่าง จะต้องมีข้าวของไทยเป็นทางเลือกด้วย
“ปัจจุบันไทยถือมีการพัฒนาและวิจัยพันธุ์ข้าวที่เก่งที่สุด แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้หลายประเทศใช้วิธีการขโมยสายพันธุ์ที่ไทยพัฒนาแล้วไปต่อยอด ดังนั้นนักวิจัยข้าวของไทยจะต้องหนี และเร่งวิจัยข้าวในระดับที่ดีขึ้นไปอีก เพื่อสร้างความเหนือชั้นของคุณภาพข้าว เราจะรุ่งเรืองในตลาดระดับบน แต่จะไม่ทิ้งตลาดระดับล่าง" นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากข้อเสียของข้าวที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ทำให้การบริโภคข้าวในกลุ่มคนรักษาสุขภาพเริ่มลดลง เพราะกลัวเป็นเบาหวาน ดังนั้นกรมการข้าวควรหันมาวิจัยข้าว ที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพให้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดมากในอนาคต
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|