นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้ตรวจพบเหตุผิดปกติในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 ก่อนส่งมอบโครงการให้กระทรวงพาณิชย์รับไปดูแลในวันที่ 15 ต.ค.นี้ โดยพบที่คลังสินค้ากลางใน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ รับมอบข้าวสารผิดประเภท จากที่ต้องเป็นข้าวสารกลายเป็นข้าวเหนียวจำนวนกว่า 10 กระสอบ ธ.ก.ส.จึงได้ส่งเรื่องให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งเป็นคู่สัญญาส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบโรงสีและคลังสินค้าใหม่ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์
"การตรวจพบแม้เพียง 10 กระสอบ แต่ตามพื้นโรงสีพบมีเม็ดข้าวเหนียวจำนวนมาก ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะมีเพียง 10 กระสอบที่ตรวจพบ จึงต้องให้ อคส.ตรวจสอบใหม่ทุกโรงสีและคลังกลาง ขณะนี้ทราบแล้วว่าโรงสีใดส่งข้าวเหนียวมาแทนข้าวเจ้า จากนี้จะเป็นหน้าที่ของ อคส.ดำเนินการเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงเจ้าหน้าที่และเซอร์เวเยอร์ที่รับข้าวจากโรงสีส่งมายังคลังสินค้ากลางด้วย "นายเอ็นนู กล่าว
นอกจากนี้ พบเหตุผิดปกติอื่นคือการตรวจพบกระสอบเก่าบรรจุข้าวสารปนอยู่ในโรงสี และคลังสินค้ากลางที่ จ.ชัยนาท สระบุรี และ ลพบุรี ซึ่งตามเงื่อนไขจะต้องเป็นกระสอบใหม่เท่านั้น จึงแจ้งให้ อคส.และ อ.ต.ก.รับไปแก้ไขแล้ว และยังพบอีกว่าโรงสีใน จ.กาญจนบุรี ได้นำข้าวเปลือกจากโรงสีใน จ.สระบุรีที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการมาสีแปรสภาพเป็นข้าวสารเพื่อรอส่งมอบเข้าคลังกลาง
นายเอ็นนู กล่าวต่อว่า ภายหลังส่งมอบข้าวให้กระทรวงพาณิชย์แล้ว และมีการระบายข้าวออกได้ ธ.ก.ส.จะขอให้รัฐบาลชำระเงินคืนทันทีเพื่อมิให้เป็นหนี้ค้างชำระยาว เนื่องจากปัจจุบันรัฐก็ยังค้างชำระเงินตามโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรอีกกว่า 5 หมื่นล้านบาท สำหรับโครงการรับจำนำข้าวนาปี ธ.ก.ส.ยืนยันจะไม่ปล่อยกู้เอง เนื่องจากในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี มีภาระต้องปล่อยสินค้าปกติ 2.95 แสนล้านบาท
สำหรับกระบวนการก่อนที่จะส่งมอบข้าวให้กับกระทรวงพาณิชย์ดูแลนั้น จะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมด โดยจะให้ อคส.และบริษัทเซอร์เวเยอร์ ลงนามรับข้าวที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาด
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |