นายไชยา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้อนุมัติการขายข้าวในสต็อกรัฐบาล ให้กับเอกชนที่เสนอซื้อเข้ามาแล้ว ปริมาณ 1.736 ล้านตัน หลังจาก อคส. ได้เจรจาต่อรองจนได้ราคาดีที่สุด โดยเป็นการขายข้าวในสต็อกเก่า ซึ่งมีต้นทุนตันละประมาณ 1.2 หมื่นบาท ขายได้ตันละ 1.45-1.67 หมื่นบาท ส่วนข้าวหอมมะลิต้นทุน 1.8 หมื่นบาท ขายได้ราคาเฉลี่ยตันละ 1.8-1.97 หมื่นบาท
ส่วนข้าวนาปรังจำนวน 1 ล้านตัน ไม่อนุมัติการขาย เนื่องจากเห็นว่าเอกชนเสนอราคาต่ำเกินไป โดยเอกชนเสนอราคาที่ตันละ 1.4 หมื่นบาท ขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ตันละประมาณ 2.6 หมื่นบาท และข้าวขาว 25% อีก 3.64 แสนตัน ที่บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เสนอซื้อเกือบยกล็อต ในราคาตันละ 6.8 พันบาท ไม่อนุมัติการขาย เช่นกันเพราะต้นทุนอยู่ที่ประมาณตันละ 1.2 หมื่นบาท
ในส่วนของข้าวนาปรัง รัฐคงต้องเก็บไว้ก่อน แต่ข้าวขาว 25% จะเปิดให้มีการประมูลใหม่ ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะกำหนดราคาขั้นต่ำ คือ 8.5 พันบาท หากใครเสนอราคาต่ำกว่านี้ก็ไม่ขาย
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในการขายข้าวครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้กำไร เพราะต้นทุนรับจำนำข้าวขาวอยู่ที่ประมาณตันละ 1.2 หมื่นบาท ขายได้เฉลี่ยตันละ 1.45-1.67 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิต้นทุนประมาณตันละ 1.8 หมื่นบาท ขายได้ 1.8-1.96 หมื่นบาท แต่หากหักค่าเสื่อมปีละ 10 ดอลลาร์ต่อตันและค่าเก็บสต็อก จะทำให้การคำนวณการขายข้าวขาดทุน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การอนุมัติขายข้าวในครั้งนี้ขายให้กับผู้ส่งออกประมาณ 10 ราย ได้แก่ นครหลวงค้าข้าว พงษ์ลาภ เอเชีย โกลเด้นไรซ์ ไชยพรค้าข้าว เจียเม้ง สยาม อินดิก้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวขาวแบ่งกันไปตามสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยสยามอินดิก้าได้สิทธิมากที่สุด และซี.พี.อินเตอร์เทรด ได้ข้าวหอมมะลิจำนวน 3.4 แสนตัน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|