นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ กรรมการสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยเมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) ถึงโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 ซึ่งจะเริ่มในวันนี้ (15 มิ.ย.) เป็นวันแรกว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีโรงสีเข้าร่วมโครงการมากน้อยเพียงใด แต่จากการหารือร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเจรจาต่อรองเงื่อนไขในส่วนของโรงสีที่จะเข้าร่วมโครงการแล้ว ถือว่าได้ข้อยุติในเรื่องของค่าแปรสภาพข้าว ระยะเวลาการแปรสภาพข้าวแล้วส่งมอบข้าว รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์การค้ำประกันของมูลค่าข้าวที่โรงสีแต่ละแห่งจะเข้าร่วม ซึ่งเดิมกำหนดหลักประกันไว้ 20%
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังขอให้โรงสีต้องมีสต็อกข้าวส่วนตัว 50% ของยอดรับจำนำข้าว ซึ่งประเด็นนี้ทางโรงสีที่เข้าร่วมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่าเป็นภาระกับโรงสีมาก ที่สำคัญช่วงนี้ข้าวราคาสูง แต่หากราคาข้าวตกต่ำในอนาคต ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ที่ประชุมจึงเห็นด้วยให้ตัดเงื่อนไขดังกล่าวออก แต่ให้เพิ่มการค้ำประกันจากเดิม 20% เป็น 40% ซึ่งโรงสีก็เห็นด้วย
ส่วนอัตราค่าแปรสภาพข้าว ที่ประชุมเห็นด้วยและเป็นข้อยุติไปแล้วที่ตันละ 550 บาท ขณะที่ระยะเวลาในการแปรสภาพข้าวแล้วส่งมอบเข้าโกดัง มีข้อตกลงร่วมกันที่จะเร่งแปรสภาพข้าวแล้วให้ส่งมอบภายใน 7-10 วัน เนื่องจากโรงสีไม่ต้องการเก็บข้าวไว้ในโกดังนานจนเกินไปเหมือนในอดีต เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาข้าวหาย
"ที่ประชุมครั้งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ได้ข้อยุติแล้ว เพราะต้องการให้โรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำให้เร็วที่สุด เนื่องจากวันนี้ (15 มิ.ย.) ถือเป็นวันแรกของการเปิดรับจำนำ เพราะหากล่าช้าเกษตรกรจะเดือดร้อน" นายเกรียงศักดิ์กล่าว
โรงสีบอยคอต-ต้านใช้สัญญาเก่ารับจำนำ
ด้านแหล่งข่าวจากกลุ่มโรงสีข้าว กล่าวว่า การเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังในวันนี้ คงจะมีโรงสีเข้าร่วมน้อยมาก เนื่องจากข้อตกลงที่โรงสีได้ทำไว้กับธ.ก.ส.นั้นไม่เป็นไปตามเงื่อนไข เมื่อโรงสีต้องทำสัญญากับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ปรากฏว่าทั้งสองหน่วยงานยังใช้สัญญาเดิมที่เคยทำไว้ในอดีต ทำให้โรงสีไม่เข้าร่วม เพราะถือว่าผิดเงื่อนไขที่ตกลงกัน
"ทุกอย่างโรงสีคุยกับ ธ.ก.ส.จบแล้ว แต่เมื่อต้องทำสัญญาเข้าร่วมโครงการกับ อคส.และ อ.ต.ก.กลับใช้สัญญาเดิม ข้อตกลงที่ทำไว้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นค่าแปรสภาพข้าว ระยะเวลาการส่งมอบข้าวหลังแปรสภาพ รวมทั้งการค้ำประกันทุกอย่างเหมือนเดิม ทำให้โรงสีบอยคอต เพราะสัญญาที่จะให้เซ็นนั้นขาดความมั่นใจ หากยังใช้สัญญาเดิมก็จะเกิดปัญหาเก่าๆ สุดท้ายก็โทษโรงสี โครงการนี้เป็นโครงการเร่งด่วนแต่ไม่ทราบว่าทำไม อคส.และ อ.ต.ก.ทำอย่างนี้" แหล่งข่าวจากกลุ่มโรงสี ระบุ
แหล่งข่าวคนเดิมยังบอกว่า ทราบว่าโรงสีที่จะเข้าร่วมโครงการเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังในวันนี้มีไม่ถึง 10 แห่ง จะมีก็เฉพาะโรงสีที่เกรงใจและยอมเซ็นสัญญาเท่านั้น อาทิเช่น โรงสีใน จ.พิจิตรประมาณ 2-3 ราย ชัยนาท 2 ราย นครปฐมอีก 2-3 ราย ทั้งๆ ที่โรงสีประมาณ 200-300 แห่ง ต้องการเข้าร่วมโครงการ แต่สัญญาที่จะให้โรงสีเซ็นกลับไม่ปรากฏในข้อตกลงใหม่เลย
"วันนี้ต้องยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวเริ่มมีความขัดแย้งอย่างหนัก ผู้ปฏิบัติกับผู้มีอำนาจสั่งการอยู่คนละกระทรวง จึงทำให้การดำเนินงานไม่ค่อยจะประสานกันเท่าที่ควร หากยังเกิดปัญหาอย่างนี้ต่อไป โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจะเกิดปัญหาใหญ่แน่ เพราะเมื่อเกษตรกรนำข้าวไปจำนำ แต่ไม่มีโรงสีเข้าร่วม ปัญหาก็จะตามมา ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน" แหล่งข่าว กล่าว
ธ.ก.ส.ดีเดย์รับจำนำข้าวเปลือกวันนี้
รายงานข่าวจาก ธ.ก.ส.แจ้งว่า ในวันนี้ ธ.ก.ส.จะเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง จำนวน 2.5 ล้านตัน เป็นวันแรก ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะเปิดรับจำนำที่โรงสีอยุธยาไรซ์มิลล์ ที่เข้าร่วมโครงการ และชาวนาที่สามารถนำข้าวมาจำนำได้ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.ในพื้นที่ อ.บางปะหัน เสนา และลาดบัวหลวง
ทั้งนี้ เบื้องต้นสมาคมโรงสีแจ้งว่าจะมีโรงสีเข้าร่วมโครงการ จำนวน 120 แห่ง แต่เนื่องจากโรงสีที่เข้าร่วมต้องเซ็นสัญญากับ อคส. ดังนั้นในช่วงสัปดาห์แรกจะมีโรงสีที่มีความพร้อมเปิดรับจำนำข้าวเปลือกใน 8 จังหวัดก่อน ได้แก่ พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สุโขทัย นครปฐม สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และนนทบุรี
"วันที่ 19 มิ.ย.นี้ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะไปตรวจเยี่ยมโครงการรับจำนำข้าวอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อเกษตรกร ทั้งในเรื่องของตาชั่ง และเครื่องตรวจวัดความชื้น" แหล่งข่าวจาก ธ.ก.ส.ระบุ
สั่งอคส.ตรวจสต็อกข้าว 2.1 ล้านตัน
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ อคส. กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ อคส.ทั่วประเทศ ติดตามโกดังกลางและโรงสีอย่างเข้มงวดและเร่งด่วน เพื่อตรวจสต็อกข้าวของรัฐบาลจำนวน 2.1 ล้านตัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีความวิตกกังวลหลังจากเกิดพฤติกรรมการยักยอกทำข้าวเปลือกในโกดังสูญหายไปจำนวน 288 ตันข้าวเปลือก จนทำให้มีการโจมตีการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ว่าผิดพลาด และนายกรัฐมนตรีต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสต็อกข้าวที่มีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ส่วนความคืบหน้าการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังในวันนี้นั้น ในส่วนของ อคส.ได้ทำความเข้าใจกับโรงสีที่สนใจเข้าร่วมโครงการประมาณ 30-40 ราย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขอย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ประสานงานเท่านั้น ส่วนการดูแลโครงการรับจำนำอยู่ที่ ธ.ก.ส.เป็นหลัก
ั้ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|