นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ให้เข้ามาช่วยเหลือชาวนา ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องราคาข้าวที่ถูกพ่อค้าเอาเปรียบกดราคาซื้อ โดยสมาคมชาวนาขอความชัดเจน จากรัฐบาลเรื่องราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/2552 ซึ่งเดิม ครม.มีมติวันที่ 8-9 ก.ย.2551 ให้รับจำนำข้าวขาวตันละ 14,000 บาท ข้าวหอมมะลิ ตันละ 16,000 บาท และ ข้าวเหนียวตันละ 9,000 บาท แต่ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนหลายเรื่องทั้งราคารับจำนำและการกำหนดวันเปิดโครงการรับจำนำ

ทั้งนี้ สมาคมยืนยันให้รัฐบาลคงราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปี ตามที่เคยประกาศไว้เช่นเดิมและให้ใช้วิธีปฏิบัติเหมือนการรับจำนำข้าวนาปรังที่ผ่านมา โดยให้เริ่มรับจำนำในวันที่ 16 ต.ค. 2551 ถึงวันสิ้นสุดโครงการวันที่ 28 ก.พ. 2552 เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนการผลิต ปุ๋ย ยา เคมีการเกษตรปราบศัตรูพืชราคาเพิ่มขึ้นเกือบทุกชนิด ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อไร่ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ไร่ละ 7,070 บาท เมื่อเทียบจากปี 2548 อยู่ที่ไร่ละ 3,790 บาท ปี 2549 ไร่ละ 4,750 บาท และปี 2550 ไร่ละ 5,550 บาท

นอกจากนั้น เมื่อมีข่าวออกมาว่า รัฐบาลจะทบทวนราคารับจำนำข้าวนาปี ได้ทำให้เกิดปัญหาพ่อค้ากดราคารับซื้อข้าวลดลงทันที ในปัจจุบันราคาข้าวสารเจ้า 5% ได้ปรับลดลงตันละ 2,000 บาท ทำให้ราคาข้าวเปลือกลดลงตันละ 1,000-1,500 บาททันที จากราคาก่อนประกาศ ตันละ 12,000 บาท ความชื้นที่ 15% ตอนนี้ลงมาเหลือตันละ 10,000-10,500 บาท ส่วนข้าวสดก็ลดลงมาเหลือตันละ 8,500-9,000 บาท

“กรณีที่มีบทความของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เขียนวิจารณ์การรับจำนำข้าวในราคาสูงว่าทำให้รัฐบาลต้องเสียประโยชน์นั้น อยากจะให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร มาถกกับตนตัวต่อตัว อย่านั่งเขียนบทความอยู่แต่ในห้องแอร์ ซึ่งไม่รู้จริงและทำให้เกิดความเข้าใจผิด กระทบต่อโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีได้ ซึ่งการรับจำนำในราคาที่ต่ำลง ยิ่งทำให้โอกาสของชาวนาไม่มีทางที่จะสู้กลไกของโรงสีและผู้ส่งออกได้อย่างชัดเจน และชาวนาก็ต้องขาดทุนอีก” นายประสิทธิ์ กล่าว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ