|
"ไชยา"สบช่องดึงดูแลข้าวกลับพณ.
|
นายไชยา สะสมทรัพย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนจะเสนอขอความเห็นต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 16 กันยายนนี้ เกี่ยวกับการดูแลปัญหาข้าวทั้งระบบ ว่าหลังจากนายสมัคร สุนทรเวช พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการบริหารจัดการข้าวทั้งระบบพ้นหน้าที่โดยปริยาย ควรเร่งพิจารณาว่าใครหรือหน่วยงานใดจะเข้ามาทำหน้าที่แทน เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องให้ความเห็นชอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากดราคารับซื้อข้าวจากเกษตรกร และราคาข้าวตกต่ำรุนแรงขึ้น รวมถึงต้องมาดูแลโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2551 และเตรียมความพร้อมรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52
นายไชยากล่าวว่า นอกจากนี้จะเสนอให้เห็นชอบตั้งนายถิรชัย วุฒิธรรม ประธานที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เป็นประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) และโอนงานบริหารข้าวให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลเหมือนเดิม เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ข้าว แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีแนวคิดจะปรับลดราคารับจำนำข้าวนาปี ให้ต่ำกว่าตันละ 14,000 บาท เพราะถือว่าเป็นราคาเหมาะสมและต่ำกว่าควรจะเป็นด้วยซ้ำ
"ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าจะให้ใครหรือหน่วยงานใดมาดูแล ก็มีความกังวลในเรื่องปริมาณข้าวในสต๊อคที่สูงเกินไป เมื่อได้บอร์ด อคส.เรียบร้อย ก็ต้องเร่งให้ตั้ง ผอ.อคส. และเร่งการระบายข้าว หากเอกชนรายใดสนใจก็ให้เข้ามาเสนอซื้อได้เลย ใครให้ราคาดีก็จะขายให้ ข้าวล้นโกดังมากก็ไม่ได้ ใน 2 เดือนนี้การระบายข้าวในสต๊อคควรจะหมดลง" นายไชยากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายไชยา เข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เคยเสนอนายสมัคร และ ครม.ให้เห็นชอบคืนความดูแลข้าวทั้งระบบมาให้กระทรวงพาณิชย์เหมือนเดิม แต่ก็ถูกปฏิเสธ พร้อมกับดึงเรื่องการอนุมัติตั้งประธานบอร์ด อคส. เนื่องจากที่ผ่านมาถูกมองว่าเหตุผลที่ต้องตั้งคณะกรรมการดูแลข้าวทั้งระบบเพราะไม่มีบอร์ด อคส.
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กล่าวว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เสนอในที่ประชุม กขช.เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอให้พิจารณาออกพันธบัตรเงินกู้ (บอนด์) ระดมทุนจากประชาชน เพื่อนำมาเป็นเงินหมุนเวียนในการชำระค่าข้าวเปลือกในโครงการรับนำจำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 ที่มีเป้าหมายรับจำนำ 8 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2551-28 กุมภาพันธ์ 2552 เนื่องจาก ธ.ก.ส.ไม่มีความพร้อมเกี่ยวกับเงินสำรอง ที่จะใช้สำหรับโครงการรับจำนำข้าวนาปี เพราะต้องเตรียมไว้ชำระค่าข้าวเปลือกนาปรัง 2551 ที่กำลังรับจำนำ อีก 4 หมื่นล้านบาท ตามมติ ครม.ให้เพิ่มจำนวนรับจำนำอีก 1 ล้านตัน จาก 2.5 ล้านตัน เป็น 3.5 ล้านตัน
นายปราโมทย์ วานิชชานนท์ ประธานที่ปรึกษาสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการกำหนดราคารับจำนำที่สูงตันละ 14,000 บาท เพราะสูงกว่าราคาตลาดที่ขายกันอยู่ 12,000 บาท รัฐต้องแบกรับภาระหนี้จำนวนมาก และอาจมีผลกระทบต่องบประมาณที่จะนำมาใช้
ที่มา มติชน |
|
|
|
|
© Thai Rice Exporters Association
37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678
E-mail : contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com
Copyright © 2008 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.
|
|
|