นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น จากความต้องการของตลาดต่างประเทศที่สูงขึ้น ประกอบกับอินเดียสั่งห้ามการส่งออก และเวียดนามเริ่มบริหารสต็อกให้เพียงพอกับภายในประเทศ โดยล่าสุดในการประมูลข้าวขาว 25% ของฟิลิปปินส์จำนวน 500,000 ตันกลางสัปดาห์ก่อน ผู้ส่งออกเวียดนามเสนอขาย 350,000 ตัน ตันละ 715-745 ดอลลาร์สหรัฐ (ราคาซีไอเอฟ รวมค่าระวางเรือ และค่าประกันภัยแล้ว) หากคิดเป็นราคาเอฟโอบี จะอยู่ที่ตันละ 670-680 ดอลลาร์

     ขณะที่ผู้ส่งออกไทยเสนอขายเพียง 150,000 ตัน ตันละ 540-580 ดอลลาร์ (ราคาเอฟโอบี) ซึ่งมีแนวโน้มว่า ฟิลิปปินส์จะซื้อข้าวจากเวียดนามในราคาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ฟิลิปปินส์มีความต้องการข้าวจำนวนมาก คาดว่าปีนี้จะนำเข้าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตัน นับเป็นครั้งแรกที่ราคาข้าวเวียดนามสูงกว่าราคาข้าวไทย

     ส่วนสถานการณ์ราคาส่งออกข้าวของไทย คาดว่าปีนี้ ราคาส่งออกข้าวขาว 100% ของไทยแบบเอฟโอบี (ส่งมอบ ณ ท่าเรือ กรุงเทพ โดยผู้ส่งออกไม่ต้องเสียค่าระวางเรือ และค่าประกันสินค้า) น่าจะมีโอกาสไปแตะที่ตันละ 1,000 ดอลลาร์ได้ จากปัจจุบันตันละ 556 ดอลลาร์ เพราะความต้องการซื้อข้าวจากต่าง ประเทศเพิ่มสูงขึ้นมาก จากภาวะขาดแคลนภายในประเทศ

     นอกจากนี้ผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างอินเดีย ที่เคยส่งออกเฉลี่ยปีละ 4 ล้านตัน หยุดส่งออกอย่างไม่มีกำหนด และยังตั้งราคาส่งออกขั้นต่ำสูงถึงตันละ 650 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบันมาก ส่วนราคาส่งออกข้าวหอมมะลิน่าจะสูงเกินกว่าตันละ 1,000 ดอลลาร์ จากปัจจุบันตันละ 790 ดอลลาร์

     “ปีนี้มีโอกาสเห็นราคาส่งออกข้าวไทยแตะที่ตันละ 1,000 ดอลลาร์ อินเดียงดส่งออก ออเดอร์ทะลักเข้าไทย เดือนก.พ.2551 ส่งออกเกินเดือนละ 1 ล้านตันต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 แล้ว ปกติเดือนละ 6-7 แสนตัน ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี เพราะสต็อกข้าวในประเทศขาดแคลนได้ ขณะนี้ โรงสี และผู้ส่งออกหลายรายตกเขียวข้าวของเกษตรกรหมดแล้ว เพื่อสต็อกไว้หวังเก็งกำไร"

     ทั้งนี้ เมื่อราคาส่งออกสูง ราคาภายในก็จะสูงตามไปด้วย โดยราคาข้าวเปลือกล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มี.ค.2551 ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 12,300-12,500 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 9,400-9,700 บาท ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 9,400-9,600 บาท คาดว่า ปีนี้น่าจะเป็นปีทองของเกษตรกรไทย ที่จะขายข้าวได้ในราคาสูงมาก แต่สำหรับผู้ส่งออกไม่ใช่เรื่องดี เพราะต้องซื้อข้าวในประเทศราคาแพงเพื่อส่งออก ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นมาก

     อย่างไรก็ตาม จากราคาข้าวในประเทศที่สูงขึ้นมาก มีโอกาสที่จะเกิดการทุจริตในโกดังเก็บข้าวของรัฐบาลได้มาก โดยอาจมีการนำข้าวในสต็อกรัฐไปขายทำกำไรก่อน แล้วจึงซื้อข้าวใหม่ช่วงต้นฤดูมาเก็บแทนเพราะจะมีราคาถูกกว่ามาก

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ