|
หวั่นส่งขายตปท.เพลิน ทำคนไทยกินข้าวแพง
|
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่าขณะนี้สถานการณ์การส่งออกข้าวของไทยดีมาก เนื่องจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ค่อยมีข้าว แต่ไทยมีข้าวอยู่ประเทศเดียวทำให้เดือนมกราคม 2551 ที่ผ่านมาส่งออกข้าวได้มากถึง 1 ล้านกว่าตัน ขณะที่เดือนมกราคม 2550 ส่งออกข้าวได้ 5-6 แสนตันเท่านั้นคิดเป็นเพิ่มขึ้นราวๆ40-50% เช่นเดียวกับเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งติดวันหยุดในช่วงตรุษจีน ทำให้ส่งออกข้าวได้ 9 แสนกว่าตัน และเดือนมีนาคมของปีนี้คาดว่าจะส่งออกได้อีกกว่า 1 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 40-50%
นอกจากนี้ราคาขายข้าวก็เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยขณะนี้ข้าวปริมาณ 1 ตันมีราคาเกือบ 20,000 บาท และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก ดังนั้นรัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะบริหารจัดการในเรื่องข้าวอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้คนไทยบริโภคข้าวในราคาที่สูงจนเกินไป โดยให้เป็นราคาที่สมเหตุสมผล และไม่ควรแพงไปตามตลาดนอก แต่ก็จะยังคงให้ราคาข้าวส่งออกไปยังต่างประเทศมีราคาดีต่อเนื่อง ที่สำคัญข้าวจะต้องเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศด้วย " รัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งกับกลไกตลาดรวมทั้งจะไม่เข้าไปตรึงราคาแต่อย่างใดแต่จะใช้วิธีการบริหารจัดการที่เหมาะสม โดยในอีก 2 เดือนข้างหน้าก็จะมีข้าวใหม่ออกสู่ตลาดแล้ว ส่วนการระบายข้าวที่มีอยู่ในสต็อกของรัฐบาลคิดว่าจะเป็นต้องมี แต่คงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ แต่เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าสัปดาห์นี้จะเริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยเป้าหมายการระบายข้าวอยู่ที่ 7 แสนตัน แต่งวดแรกจำนวนเท่าไรคงต้องมีดู ซึ่งจะมีทั้งการขายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ"นายวิรุฬกล่าว
ปัจจุบันข้าวในสต็อกรัฐบาลมีอยู่ประมาณ 2.1 ล้านตัน โดยภายใน 1 ปี จะมีข้าวใหม่ออกสู่ตลาดอย่างน้อย 18 ล้านตัน ซึ่งโดยปกติคนไทยจะบริโภคข้าวประมาณ 9 ล้านตัน ที่เหลือจะเป็นการส่งออกทั้งหมด ส่วนข้าวในสต็อกที่เหมาะสมควรมีไว้อย่างน้อย 2-3 ล้านตัน เพื่อมั่นใจว่าข้าวในประเทศเองจะไม่ขาดตลาด รมช.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า การเปิดรับจำนำข้าวในฤดูข้าวนาปรัง คิดว่าไม่จำเป็น เพราะขณะนี้ข้าวในตลาดมีราคาดีอยู่แล้ว ราวๆ 12,000-13,000 บาทต่อตัน ดังนั้นหากเปิดรับจำนำในขณะนี้คงไม่มีใครเข้าร่วมโครงการ
ด้านนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง เลขาธิการ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบข้าวในสต็อกรัฐบาลตามคำสั่งของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมรายงานผลการตรวจสอบ โดยกำหนดให้ส่งรายงานเข้าภายในวันที่ 17 มีนาคม หลังจากนั้น กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนที่จะบริหารจัดการในเรื่องข้าวด้วยนโยบายใหม่ โดยจะดูแลไม่ให้คนไทยบริโภคข้าวในราคาที่สูงจนเกินไป
ทั้งนี้ในขั้นแรกคือการให้องค์การคลังสินค้า(อคส.) ตรวจสอบข้าวในสต็อกรัฐบาลก่อนว่ามีปริมาณเท่าไร และข้าวสำหรับการบริโภคภายในประเทศมีปริมาณการสำรองเท่าไร จากนั้นก็จะมาดูที่ราคาขายข้าวในประเทศว่าราคาสูงผิดปกติหรือไม่ จากปัจจุบันราคาข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้นตามตลาดส่งออกที่ขยายตัวขึ้นเกือบเท่าตัว แต่คนในประเทศเองก็ต้องมีข้าวกินอย่างเพียงพอ ในราคาที่เป็นธรรมด้วย
"ขณะนี้ ราคาข้าวในประเทศยังถือว่าอยู่ในระดับปกติ แต่หากเห็นว่าราคาข้าวปรับตัวขึ้นผิดปกติเมื่อใด ก็อาจจำเป็นต้องใช้มาตรการเข้ามาแทรกแซง เช่นปัจจุบันราคาข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัม มีราคาอยู่ประมาณ 75-80 บาทต่อถุง แต่ราคาข้าวก็ไม่ควรจะกระโดดสูงขึ้นจนเกินไป ซึ่งหากราคาขึ้นไปถึงราคา 100 บาทต่อถุง ขณะที่ค่าแรงของประชาชนไม่ได้ปรับสูงขึ้นตาม ก็จะทำให้ได้รับความเดือดร้อนหนัก ดังนั้น คนไทยจะต้องซื้อข้าวกินได้แบบไม่เดือดร้อน"นายอริสมันต์กล่าว
ที่มา แนวหน้า
|
|
|
|
|
© The Rice Exporters Association
37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678
E-mail : contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com
Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.
|
|
|