www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

เวียดนามปั่นราคาข้าว 1,200 ดอลล์


      นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า การเปิดประมูลข้าวขาว 25% จำนวน 5 แสนตัน ที่ประเทศฟิลิปปินส์ วานนี้ (17 เม.ย.) มีประเทศเข้าร่วมยื่นซองประกวดราคา 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม เสนอขายข้าวขาว 25% ปริมาณ 1.1 แสนตัน ในราคาส่งออกรวมค่าขนส่งและค่าระวางเรือ (ซีไอเอฟ) ตันละ 1,200 ดอลลาร์ ไทยเสนอขาย 2 แสนตัน ในราคาตันละ 1,070-1,150 ดอลลาร์ และปากีสถานเสนอขาย 2.4 หมื่นตัน ราคาตันละ 870 ดอลลาร์ รวมปริมาณข้าวที่ทั้ง 3 ประเทศเสนอขายข้าวให้ฟิลิปปินส์รวมกัน 3.34 แสนตัน ต่ำกว่าความต้องการของฟิลิปปินส์ที่เสนอซื้อข้าว 5 แสนตัน

     "หลังจากที่เปิดซองเสนอราคาแล้ว ทางคณะกรรมการต่อรองราคาฟิลิปปินส์จะดำเนินการต่อรองกับประเทศผู้เสนอราคาอีกครั้ง โดยคาดว่าจะรู้ผลภายใน 2 วัน ซึ่งหากฟิลิปปินส์เห็นว่า ข้าวทั้ง 3 ประเทศราคาสูง อาจจะล้มประมูลและเปิดประมูลใหม่ในต้นเดือนหน้า หรือหากยอมรับข้อเสนอดังกล่าวของประเทศใดประเทศหนึ่ง ก็จะต้องต่อรองเพื่อให้ราคาดีที่สุด" นายชูเกียรติกล่าว

     อย่างไรก็ตาม หากฟิลิปปินส์ต้องการข้าวไทยและรับข้อเสนอ เชื่อว่าจะไม่ทำให้ราคาข้าวในประเทศปรับตัวสูงขึ้นมาก เพราะปริมาณข้าวที่ผู้ส่งออกไทยร่วมประมูลไม่สูงมาก จึงไม่มีผลต่อราคาโดยรวมในประเทศ โดยราคาข้าวขาวในประเทศจะอยู่ที่ตันละ 2.6 หมื่นบาท หากเป็นราคาส่งออก ณ ท่าเรือ (เอฟโอบี) หรือไม่รวมค่าขนส่งและค่าระวางเรือ จะอยู่ที่ประมาณตันละ 900-1,000 ดอลลาร์

ชี้ปั่นราคาข้าวป่วนตลาดโลก

     นายสมพงษ์ กิติเรียงลาภ ประธานบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด กล่าวว่า บริษัทพงษ์ลาภได้ร่วมกับบริษัทไทยฟ้า และผู้ส่งออกข้าวอีก 4 ราย คือ บริษัทนครหลวงค้าข้าว ไชยพรค้าข้าว และเอเชียโกลเด้นไรซ์ เสนอประมูลขายข้าวให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ ซึ่งในส่วนของพงษ์ลาภและไทยฟ้า เสนอขายข้าวขาว 25% ประมาณ 2 หมื่นตัน ในราคาเอฟโอบี ตันละ 910-930 ดอลลาร์ แต่หากเป็นราคาซีไอเอฟ ก็จะบวกเพิ่มอีกตันละ 30-40 ดอลลาร์ ซึ่งเชื่อว่าการประมูลครั้งนี้ ทางฟิลิปปินส์คงไม่ล้มประมูล แต่จะต่อรองราคากับผู้เสนอราคาให้ได้ราคาต่ำที่สุด

     อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า ราคาข้าวที่ทุกประเทศเสนอขายฟิลิปปินส์ครั้งนี้ เป็นราคาที่สูงเกินไป เพราะข้าวขาว 25% ราคาขายไม่ควรเกินตันละ 900 ดอลลาร์ ซึ่งผลจากเสนอราคาสูงนี้ จะทำให้ข้าวชนิดอื่นปรับราคาสูงขึ้นตามด้วย ส่งผลถึงระบบซื้อขายปั่นป่วน ผู้นำเข้าจะชะลอซื้อข้าวจากไทย อาทิเช่น มาเลเซีย ล่าสุดก็ได้ชะลอซื้อข้าวจากไทย 4-5 หมื่นตันแล้ว เพราะเห็นว่าราคาขณะนี้แพงเกินไป

     "ราคาที่สูงโอเวอร์ขณะนี้ ผู้ส่งออกก็ลำบาก แม้จะมีสต็อกข้าวอยู่ในมือ แต่ก็ขายข้าวได้ยาก เพราะราคาผันผวนหนัก ซึ่งทุกวันนี้ ผู้ส่งออกขายข้าวขาดทุนกันอยู่แล้ว แต่ที่ต้องร่วมประมูล เพราะต้องการรักษาฐานตลาด" นายสมพงษ์กล่าว

     นอกจากนี้ ผู้ส่งออกยังต้องใช้เงินมากกว่าปีที่แล้วถึง 1.5 เท่า ในการซื้อข้าวส่งออก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลควรแก้ไข เพราะพืชเกษตรออกสู่ตลาดทุกเดือน หากปล่อยเป็นเช่นนี้ จะทำลายระบบการค้าในที่สุด

     ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ออกเดินสายโรดโชว์ข้าวที่ประเทศฮ่องกง เห็นว่าไม่มีความจำเป็น เพราะขนาดตลาดเล็กนิดเดียว อีกทั้งฮ่องกงนำเข้าข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นสินค้าพรีเมียมที่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว แต่รัฐบาลควรจะดูแลข้าวขาวมากกว่า

ฟิลิปปินส์อาจเพิ่มปริมาณประมูลข้าว

     สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวานนี้ (17 เม.ย.) ว่า ฟิลิปปินส์ประสบความล้มเหลวในการเปิดประมูลซื้อข้าวจำนวน 500,000 ตัน โดยสามารถจัดหาได้เพียง 325,750 ตันเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนราว 2 ใน 3 ของเป้าที่ตั้งไว้ หลังราคายื่นประมูลสูงกว่า 40% ของการประมูลครั้งก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน มี.ค.ซึ่งในครั้งนั้น ฟิลิปปินส์ก็ไม่สามารถจัดซื้อได้ตามความต้องการเช่นกัน

     นายวิค จารินา รองผู้อำนวยการสำนักงานอาหารแห่งชาติ ระบุว่า ราคาที่เสนอขายสูงเกินไป โดยฟิลิปปินส์จะมีการทบทวนการประมูล และตัดสินใจว่าจะเปิดประมูลอีกหรือไม่

     สำหรับราคาประมูล บรรดาผู้จัดหาได้เสนอขายข้าวในราคาตั้งแต่ตันละ 872.50 ดอลลาร์ ไปจนถึง 1,220 ดอลลาร์ต่อตัน ถือเป็นราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับราคาขายเมื่อเดือนมี.ค.ซึ่งอยู่ระหว่าง 618.15-747 ดอลลาร์ต่อตัน

     นายจารินา เผยด้วยว่า มีการกำหนดเวลาการประมูลข้าวอีก 500,000 ตันไว้แล้วในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งในการประมูลรอบดังกล่าว อาจจะมีการเพิ่มปริมาณข้าวที่ต้องการประมูลอีก 100,000 ตัน มาอยู่ที่ 600,000 ตัน

     ขณะที่นายชูจิ ซูกาตะ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย จากมิตซูบิชิ คอร์ป ฟิวเจอร์ แอนด์ ซิเคียวริตีส์ ในกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น แสดงความเห็นว่า บรรดาผู้นำเข้าบางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างรู้สึกถึงความยากลำบากที่จะหาซื้อข้าว เพราะการจัดหาตึงตัวอย่างมาก

     ทั้งนี้ ข้าวซึ่งถือเป็นอาหารหลักของประชากรเกือบครึ่งโลก มีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จากความกังวลว่าอาจเกิดภาวะขาดแคลนข้าวในตลาดโลกได้ เพราะผู้ส่งออกจำนวนมาก รวมถึงเวียดนาม ลดปริมาณการส่งออก เพื่อปกป้องการสำรองภายในประเทศ ซึ่งนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุไว้เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ว่า วิกฤติอาหารโลกอยู่ในขั้นอันตรายแล้ว

     โดยประเทศจีน อียิปต์ เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งมียอดส่งออกข้าวโดยรวมมากกว่า 1 ใน 3 ของตลาดโลก ต่างจำกัดการส่งออกในปีนี้ ขณะที่อินโดนีเซีย ประเทศผู้ปลูกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ระบุว่า จะส่งออกข้าวได้ก็ต่อเมื่อปริมาณข้าวสำรองในโกดังข้าวของรัฐบาลมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านตัน

ฟิลิปปินส์หาข้าว 2.1 ล้านตัน ภายในก.ค.นี้

     ข้อมูลจากรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ กรุ๊ป ชี้ว่า ในปีนี้ฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวไปแล้ว 1.9 ล้านตัน หรือราว 15% ของความต้องการภายในประเทศ โดย 10% ของข้าวที่บริโภคในฟิลิปปินส์นั้น ได้รับการอุดหนุนด้านราคาจากรัฐบาล

     การประมูลข้าวไม่ได้ตามจำนวนที่ต้องการของฟิลิปปินส์ ถือเป็นการได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลังนายปีเตอร์ ฟาวิลา รัฐมนตรีการค้าฟิลิปปินส์ เผยก่อนหน้านี้ ว่า จีนปฏิเสธขายข้าวสาลีให้กับฟิลิปปินส์ เพราะต้องการสำรองข้าวสาลีให้เพียงพอกับความต้องการในประเทศ

     ตามเอกสารที่จัดส่งให้กับบรรดาผู้ขายข้าวนั้น รัฐบาลกรุงมะนิลา ระบุว่า มีแผนที่จะจ่ายเงินจำนวน 15,470 ล้านเปโซ หรือประมาณ 11,600 ล้านบาท เพื่อซื้อข้าว 25% จำนวน 400,000 ตัน นอกเหนือจากข้าว 15% และ 5% ชนิดละ 50,000 ตัน

     นายจารินา เผยด้วยว่า ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องได้รับการส่งมอบข้าวจำนวน 2.1 ล้านตัน ภายในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อรับประกันถึงการมีปริมาณข้าวสำรองอย่างเพียงพอระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค.ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผลผลิตในประเทศอยู่ในระดับต่ำสุด โดยที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้จัดซื้อข้าวสำหรับการส่งมอบในปีนี้ไปแล้ว 1.2 ล้านตัน ผ่านการประมูลที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว

ราคาล่วงหน้าแตะ 31.99 บาท

นายนิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ( ต.ส.ล.) กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาทยอยสั่งซื้อขายมากขึ้น เหตุผลสำคัญที่สินค้าข้าวมีการซื้อขายสูง น่าจะมาจากผลของการประมูลข้าวในประเทศฟิลิปปินส์ ที่นักลงทุนจับตามองมาตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา และนโยบายในการส่งออกข้าวของไทย ทำให้มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด ส่งผลให้ราคาข้าวสำหรับเดือนส่งมอบพ.ค.จนถึงเดือนก.ย.ราคาสูงขึ้นถึงระดับราคาเพดาน โดยมีราคาอยู่ในช่วง 31.00-31.99 บาท/กก.

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2008 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.