|
"ไชยา"นิรโทษกรรมโรงสี 50 ราย อ้างเคลียร์ไว้รอรับข้าวนาปี ชาวนาเแจ้งจับ"ศิริภิญโญ"
|
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังให้สมาคมโรงสีข้าวไทยเข้าพบ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ได้รับข้อเสนอสมาคมขอให้ทบทวนการขึ้นบัญชีดำ (แบล๊คลิสต์) โรงสีที่ผิดสัญญากับองค์การคลังสินค้า (อคส.) มีจำนวน 40-50 ราย และขอให้ผ่อนปรนการจ่ายชำระหนี้ ขอจ่ายหนี้ตามมูลค่าหนี้สัญญา มีมูลค่ารวมประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท ส่วนค่าปรับการผิดสัญญาในอัตรา 0.02% ต่อวัน อีกรวม 1,400 ล้านบาท ขอให้พิจารณาค่าปรับใหม่เท่ากับการติดหนี้กับธนาคารในอัตราปีละ 7.5% โดยจะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ เพื่อขอความเห็นชอบในคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เพื่อแก้ไขระเบียบอัตราค่าปรับการผิดสัญญา ในเร็วๆ นี้
"การนิรโทษกรรมคงต้องคุยกับโรงสีเป็นรายๆ ว่าสาเหตุที่ผิดสัญญานั้นเพราะอะไร หากไม่เจตนาก็ต้องผ่อนปรนโดยการลดหนี้ส่วนค่าปรับให้เท่ากับอัตราค่าปรับที่แบงก์ทั่วไปเขาคิดปีละ 7.5% แต่การปรับของ อคส.วันละ 0.02% คิดเป็นปีเท่ากับ 72% สูงเกินไป หากปลดล็อคตรงนี้ได้จะเป็นการเพิ่มโรงสีข้าว เพื่อเข้าโครงการรับจำนำนาปีที่จะมีข้าวออกสู่ตลาดสูงถึง 23 ล้านตันได้ทัน"
นายไชยากล่าวว่า การนิรโทษดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ผิดสัญญารับมอบข้าวจากการชนะการประมูลข้าวของรัฐทั้งหมด เพราะอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ส่วนที่กังวลในประเด็นการครหาเรื่องการเอื้อประโยชน์นั้น ต้องถามว่าหากมีโรงสีรองรับข้าวนาปีไม่เพียงพอใครจะรับผิดชอบ
นายวัฒนา รัตนวงศ์ สมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า นอกจากขอนิรโทษกรรมให้โรงสีที่ถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว ยังขอให้รัฐพิจารณาแบ่งโควต้าส่งออกข้าวแบบจีทูจีในสัดส่วน 20% ของการส่งมอบข้าวทั้งหมด เพราะโรงสีเองก็ศักยภาพได้ด้านส่งออกเพิ่มขึ้นแล้ว
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไชยากล่าวว่า ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงเจรจาการซื้อข้าว กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว การค้าและอุตสาหกรรมติมอร์-เลสเต โดยจะซื้อข้าวจากไทย 1.2 แสนตัน เป็นข้าว 15% ส่วนราคาการซื้อขายจะอยู่ที่ตันละประมาณ 860 เหรียญสหรัฐ ข้าวที่จะนำมาขาย คงจะนำข้าวเก่าในสต๊อค จำนวน 2.1 ล้านตัน ที่มีความชื้นอยู่ที่ 5% มาผสมกับข้าวนาปรัง ที่รัฐบาลรับจำนำไว้แล้ว มีความชื้นอยู่ที่ 25% จะจำหน่ายเป็นการค้าแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ระหว่างไทยกับติมอร์ จำนวน 3 หมื่นตัน ส่วนข้าวที่เหลืออีก 9 หมื่นตัน จะเปิดให้เอกชนเข้ามารับไปดำเนินการทั้งหมด
ทางด้านกลุ่มราษฎรจาก ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย จำนวน 26 ราย นำโดยนายสมสิทธิ์ สมุดความ ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สมคิด หมั่นงาน หัวหน้า สภ.ต.ย่อยบ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย กรณีโรงสีศิริภิญโญ มารับซื้อข้าวเหนียวนาปรังจากราษฎร เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2551 ตามแนวทางแก้ไขปัญหาของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รมว.พาณิชย์ (ขณะนั้น) แต่กลับไม่ได้รับเงินค่าข้าวตามสัญญาที่ค้างอยู่ 2,279,324 บาท
ที่มา มติชน
|
|
|
|
|
© Thai Rice Exporters Association
37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678
E-mail : contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com
Copyright © 2008 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.
|
|
|