www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

หอมมะลิตันละหมื่นสาม ข้าวถุงพาเหรดขึ้นราคารับมิ่งขวัญ


     นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยกับ " ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากกรณีที่ต้นทุนการผลิตข้าวถุงปรับสูงขึ้น ผู้ประกอบการข้าวถุงต่างปรับราคาขึ้นร้อยละ 5-10 เพื่อให้สอดคล้องกับตันทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น โดย "ข้าว" ถือเป็นวัตถุดิบที่มีสัดส่วนมากที่สุดถึงร้อยละ 90 ปรับราคาสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 13,500 บาท เกินกว่าราคาจำนำที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ตันละ 9,300 บาท และส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 10 เป็นต้นทุนด้านการเก็บรักษา การปรับปรุงคุณภาพข้าว และค่าขนส่ง ซึ่งต่างปรับสูงขึ้นเช่นกัน

     ขณะนี้ต้นทุนสูงขึ้นมาก ทุกสินค้าผู้ประกอบการใช้วิธีการขึ้นราคา ไม่มีการตลาดอะไรในช่วงนี้ หากต้องแบกรับภาระต่อไป คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของรายกลาง และรายเล็กแน่นอน เพราะตอนนี้เริ่มมีปัญหาขาดทุนกันแล้ว

     ล่าสุดผู้ประกอบการข้าวถุงอยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญาซื้อขายข้าวกับห้างค้าปลีก ( โมเดิร์นเทรด) ซึ่งเป็นช่องทางการจำหน่ายข้าวหลักคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90 ของการจำหน่ายข้าวถุงทั้งหมด ทางห้างค้าปลีกบางรายได้เสนอขอปรับขึ้นค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิ ค่าเมล์ (ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขาย) ค่ารีเบต (ส่วนลดพิเศษ) และค่ารีโนเวต (ปรับปรุงสถานที่) เพิ่มขึ้น โดยอ้างว่าจะต้องปรับให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ทางผู้ประกอบการรับข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้ เพราะต้นทุนข้าวปรับสูงขึ้นมาก หากรับข้อเสนอคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลาง ซึ่งมีจำนวนมาก

     "ความคืบหน้าในการหารือระหว่างสมาคม กรมการค้าภายใน และห้างค้าปลีก เพื่อจัดทำสัญญากลาง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะทางกรมต้องการทราบรูปแบบการคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ห้างเรียกเก็บจากผู้ประกอบการ เพื่อเป็นเบซิส ในการคำนวณ ซึ่งได้แจ้งให้กรมทราบแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการทบทวนโดยฝ่ายกฎหมาย แต่ปัญหายังอยู่ที่ห้างค้าปลีกยังไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะร่วมด้วยหรือไม่ คาดว่าต้องหารือกันอีก 2-3 ครั้งจึงจะได้ข้อสรุป" นายสมฤกษ์กล่าว

     รัฐบาลควรพิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในด้านอื่น เช่น การระบายสต๊อกข้าวสำหรับบริโภคภายใน เพื่อบรรเทาปัญหาราคาข้าวสูง เพราะขณะนี้รัฐบาลมีข้าวในสต๊อกอยู่ประมาณ 1.5-2 ล้านตัน หากจะพิจารณาระบายจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ราคาได้ แต่หากจะรอข้าวนาปรังฤดูกาลใหม่ออกในเดือนมีนาคม จะส่งผลกระทบทั้งผู้ประกอบการ และในส่วนผู้บริโภคต้องแบกรับภาระราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นไป 

     แหล่งข่าวผู้ประกอบการข้าวถุง เปิดเผยว่า ขณะนี้ห้างค้าปลีกรายใหญ่ 2 ราย ได้ยื่นข้อเสนอขึ้นค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าเมล์ ค่ารีเบต และค่ารีโนเวต โดยเป็นการขอขึ้นราคาสูงกว่าที่ผ่านมา เช่น ปกติจะมีการจัดโปรโมชั่นในสาขาใหม่ๆ หรือสาขาที่ครบรอบอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ขอเพิ่มในทุกสาขา ซึ่งผู้ประกอบการเดือดร้อนจากต้นทุนค่าข้าวที่เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว หากยอมรับข้อเสนอทางผู้ประกอบการคงอยู่ไม่รอด รายเล็กและรายกลางที่มีทุนต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท เชื่อว่าคงทนรับภาระไม่ไหว เพราะปกติห้างก็ได้กำไรเฉลี่ยร้อยละ 10-16 แต่ผู้ประกอบการติดลบ 

     ทั้งนี้ ในปี 2550 ที่ผ่านมา ตลาดข้าวถุงมีผู้ประกอบการประมาณ 20 แบรนด์ ซึ่งจำนวนผู้ประกอบการได้ลดลงอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2547 ซึ่งเคยมีผู้ประกอบการถึง 120 แบรนด์ ส่วนมูลค่าตลาดรวมข้าวถุงประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยแบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาด 3 แบรนด์ ได้แก่ ตรา "เกษตร" มีสัดส่วนร้อยละ 11 ตรา " มาบุญครอง" ร้อยละ 11 และ "หงส์ทอง" ร้อยละ 11 ส่วนอีกร้อยละ 67 เป็นของแบรนด์อื่นๆ อาทิ ฉลาดชิม เบญจรงค์ ตราฉัตร เป็นต้น

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
The Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.